พระสมเด็จวัดเกศไชโยรุ่นประวัติศาสตร์พิมพ์ใหญ่ปี๒๕๓๑

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 17 สิงหาคม 2022.

  1. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,253
    ค่าพลัง:
    +21,396
    เมื่อวานแล้ววันนี้จัดส่ง

    1749381649229.jpg 1749381651685.jpg

    ขอบคุณครับ
     
  2. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,253
    ค่าพลัง:
    +21,396
    FB_IMG_1749375752854.jpg FB_IMG_1749375755913.jpg 1386058-1b39b.jpg

    สมเด็จ พุทธสรณ์ หลวงพ่อน้อย วัดลาดปลาเค้า ปี2521 หลังยันต์
    โดยมีหลวงปู่โต๊ะ เป็นประธานพิธีปลุกเสก ร่วมกับพระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคม รวม ๙ องค์ ดังนี้
    ๑. หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี จ.กรุงเทพมหานคร
    ๒. หลวงพ่อสุด วัดกาหลง จ.สมุทรสาคร
    ๓. หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ จ.อยุธยา
    ๔. หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม
    ๕. หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกระเฌอ จ.ชลบุรี
    ๖. หลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ จ.ลพบุรี
    ๗. หลวงปู่เหรียญ วัดบางระโหง จ.นนทบุรี
    ๘. หลวงพ่อสาย วัดบางรักใหญ่ จ.นนทบุรี
    ๙. หลวงพ่อเส็ง วัดบางนา จ.ปทุมธานี
    เมื่อปีพ.ศ.2509 วัดลาดปลาเค้า หมู่ 7 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ เป็นวัดที่มีความเกี่ยวพันกับหลวงปู่โต๊ะ ได้มีการจัดสร้างเหรียญรุ่นแรก ในครั้งนั้นได้นิมนต์หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี พร้อมด้วยพระเกจิอาจารย์ในยุคนั้นมาร่วมปลุกเสกอีกหลายรูป มีประสบการณ์ดีทางคงกระพันชาตรี หรือพูดง่ายๆ "หนังเหนียว"
    วัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่คู่ชาวลาดปลาเค้า ก่อตั้งมาเมื่อประมาณก่อนปีพ.ศ.2409 อายุประมาณ 140 ปี แต่เดิม "อำแดงด้วง" และ "อำแดงไหม" ต้นตระกูล "เกตุสุวรรณ" ได้ถวายที่ดินตั้งเป็นสำนักสงฆ์ มีชื่อเรียกตามชื่อชุมชนว่า "สำนักสงฆ์ราบปลาเค้า" จนกระทั่ง ปีพ.ศ.2435 ทางราชการได้ประกาศแต่งตั้งสำนักสงฆ์ให้กลายเป็นวัดลาดปลาเค้า
    แต่เดิมชุมชนลาดปลาเค้าเป็นชุมชนเล็กๆ ภูมิประเทศเป็นที่ราบลุ่มเหมาะแก่การอยู่อาศัยของสัตว์น้ำโดยเฉพาะ "ปลาเค้า" ซึ่งมีอยู่มากมาย ชุมชนนี้จึงได้ชื่อว่า "ราบปลาเค้า" ซึ่งหมายถึงเป็นที่ราบซึ่งมีปลาเค้าอาศัยอยู่มาก ต่อมาก็ได้เรียกเพี้ยนมาเป็น ลาดปลาเค้า
    ครั้นล่วงมาปีพ.ศ.2521 ทางวัดปฏิสังขรณ์วัดซึ่งมีสภาพทรุดโทรมเสื่อมลงตามกาลเวลา จึงได้มีการจัดสร้างวัตถุมงคลขึ้น พระครูวิมลหารกิจ หรือหลวงพ่อหลอม เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ซึ่งขณะนั้นยังเป็นผู้ช่วย เจ้าอาวาส ซึ่งเป็นลูกศิษย์หลวงปู่โต๊ะได้นิมนต์ท่านมาปลุกเสกวัตถุมงคลด้วย
    ในครั้งนั้นหลวงปู่โต๊ะได้ทราบถึงเจตนาของหลวงพ่อหลอม รวมทั้งมองเห็นคุณประโยชน์ต่อพุทธศาสนาในภายภาคหน้า ท่านจึงนำ "พระปิดตามหาเสน่ห์ หลังยันต์พุทโธ" มาให้วัดลาดปลาเค้าถึง 4 ลัง เพื่อร่วมทำบุญในการปฏิสังขรณ์วัดในครั้นนั้นด้วย
    ในคราวนั้นทางวัดได้จัดพิธีพุทธาภิเษกและนำพระปิดตามหาเสน่ห์ หลังยันต์พุทโธเข้าพิธีด้วย โดยมีหลวงปู่โต๊ะ เป็นประธานในพิธีปลุกเสก ร่วมกับพระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมอีก 8 รูป ร่วมพิธีดังนี้ 1.หลวงพ่อสุด วัดกาหลง จังหวัดสมุทรสาคร 2.หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 3.หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม จังหวัดนครปฐม 4.หลวงปู่เริ่ม วัดจุกกะเฌอ จังหวัดชลบุรี 5.หลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ จังหวัดลพบุรี 6.หลวงปู่เหรียญ วัดบางระโหง จังหวัดนนทบุรี 7.หลวงพ่อสาย วัดบางรักใหญ่ จังหวัดนนทบุรี และ 8.หลวงพ่อเส็ง วัดบางนา จังหวัดปทุมธานี
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    พระสมเด็จหลวงพ่อน้อยวัดลาดปลาเค้า ปี๒๕๒๑
    ให้บูชา 350 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250608_170622.jpg IMG_20250608_170659.jpg
     
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,253
    ค่าพลัง:
    +21,396
    get_auc1_img (12).jpeg 1365004-2ed81.jpg FB_IMG_1749394318919.jpg l5.jpg

    พระอู่ทองออกศึก แจกทหาร จงอางศึก ปี ๒๕๑๑
    พระจงอางศึกแจกทหาร พ.ศ.๒๕๑๐-๒๕๑๑ มีด้วยกัน2ยุค
    (1).ยุคต้น พ.ศ.2510 ยุคแรกเป็นพระทำมือมีแก้วแกลบใช้ตอกตัด จำนวณการสร้าง25,700องค์ มีด้วยกันทั้งหมด 6 แม่พิมพ์ มีดังนี้
    1.พิมพ์ผงสุพรรณหน้าหนุ่ม
    2.พิมพ์สมาธิเนื้อชิน
    3.พิมพ์สมาธิเนื้อดิน
    4.พิมพ์ลีลา
    5.พิมพ์ห้ามสมุทร
    6.พิมพ์คะแนนจัมโบ้(บิ๊กบอส)
    โดยส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อสีแดงส่วนเนื้อสีดำจะพบเจอน้อยมาหายากกว่ามาก
    (2).ยุคที่ 2 สร้างปลายปี2510-พ.ศ.2511 พระสร้างแบบใช้เครื่องกดบล๊อคแม่พิมพ์ งานเครื่องจะดูปราณีตเรียบร้อยกว่าพิมพ์พระยุคต้น มีจำนวณการสร้างเยอะมากหลักแสนองค์ พบเจอเนื้อมีสีดำและเนื้อสีแดงเนื่องจากการใช้เครื่องกดแม่พิมพ์พระจึงทำให้สามารถสร้างได้ไว เลยมีบล็อคพระด้านหน้าหลายบล็อค และด้านหลังมีรูปแบบเจดีย์หลายแบบ และยังมีพิมพ์พิเศษเป็นพิมพ์พระยอดธงเนื้อชินกับเนื้อทองเหลือง
    พระอู่ทองออกศึก จงอางศึก ปี 2510
    ประวัติพิธีการสร้าง " พระอู่ทองออกศึก " โดยละเอียด
    พระอู่ทองออกศึก รุ่นแจกทหารจงอางศึก ปี ๑๐ สร้างที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ หรือวัดพระธาตุ จ.สุพรรณบุรี อันเป็นสถานที่พบ " พระผงสุพรรณ " ซึ่งเป็นหนึ่งในห้าของพระชุดเบญจภาคี ที่เล่นหากันองค์เป็นแสน และบางองค์ราคาเป็นล้าน เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๐ ประเทศไทยได้จัดส่งกองกำลังทหาร " รุ่นจงอางศึก " เข้าร่วมรบกับกองกำลังสหประชาชาติ ในสงครามเวียดนาม ที่ประเทศเวียดนามใต้ และในการนี้เอง หลวงปู่โพธิ์ เจ้าอาวาสวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ซึ่งเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ได้จัดสร้าง " พระอู่ทองออกศึก " แจกแก่ทหาร " รุ่นจงอางศึก " นี้โดยเฉพาะ
    โดยนำเนื้อดินพระชำรุดแตกหักกรุต่าง ๆ เป็นส่วนผสมหลัก เช่น พระผงสุพรรณ กรุวัดพระธาตุ, พระกรุวัดพระรูป, พระกรุวัดสำปะซิว, พระกรุวัดบ้านกร่าง, พระกรุถ้ำเสือ, พระกรุวัดบางยี่หน และพระเนื้อดินชำรุดแตกหักของพระเกจิอาจารย์ เท่าที่จัดหาได้อีกมากมาย พุทธลักษณะคล้ายพระผงสุพรรณ แต่เป็นพระปางสมาธิ ด้านหลังเป็นรูปองค์พระปรางค์ อันเป็นสัญลักษณ์ประจำวัด และเป็นสถานที่พบพระผงสุพรรณ และพระเนื้อชินพิมพ์ต่าง ๆ ยอดนิยมของวงการฯ เนื้อพระมีทั้งสีดำ สีเทา และสีแดง ครั้งแรก นำเข้าพิธีมหาพุทธาภิเษก ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วันที่ ๑๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๑๐ โดยมีพระเกจิคณาจารย์ชื่อดังนั่งปรกปลุกเสก ๖๙ รูป ดังมีรายพระนามต่อไปนี้
    ๑. หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ จ.สุพรรณบุรี
    ๒. หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์ จ.สุพรรณบุรี
    ๓. หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว จ.สุพรรณบุรี
    ๔. หลวงพ่อคำ วัดหน่อพุทธางกูร จ.สุพรรณบุรี
    ๕. หลวงพ่อใจ วัดวังยายหุ่น จ.สุพรรณบุรี
    ๖. หลวงพ่อเปลื้อง วัดสุวรรณภูมิ จ.สุพรรณบุรี
    ๗. หลวงพ่อแต้ม วัดพระลอย จ.สุพรรณบุรี
    ๘. หลวงพ่อดี วัดพระรูป จ.สุพรรณบุรี
    ๙. หลวงพ่อโต๊ะ วัดลาดตาล จ.สุพรรณบุรี
    ๑๐. หลวงพ่อเจริญ วัดธัญเจริญ จ.สุพรรณบุรี
    ๑๑. หลวงพ่อบุญ วัดโคกโคเฒ่า จ.สุพรรณบุรี
    ๑๒. หลวงพ่อฮวด วัดดอนโพธิ์ทอง จ.สุพรรณบุรี
    ๑๓. หลวงพ่อเก็บ วัดดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี
    ๑๔. หลวงพ่อดี วัดท่าเจริญ จ.สุพรรณบุรี
    ๑๕. หลวงพ่อเหมือน วัดไทรย์ จ.สุพรรณบุรี
    ๑๖. หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์เจริญ จ.สุพรรณบุรี
    ๑๗. หลวงพ่อเจิม วัดกุฎีทอง จ.สุพรรณบุรี
    ๑๘. หลวงพ่อเลียบ วัดช่องลม จ.สุพรรณบุรี
    ๑๙. หลวงพ่อวิจิตร วัดบ้านทึง จ.สุพรรณบุรี
    ๒๐. หลวงพ่อแขก วัดหัวเขา จ.สุพรรณบุรี
    ๒๑. หลวงพ่อสุบิน วัดท่าช้าง จ.สุพรรณบุรี
    ๒๒. หลวงพ่อนาถ วัดศรีโลหะ จ.กาญจนบุรี
    ๒๓. หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี
    ๒๔. หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม จ.สิงห์บุรี
    ๒๕. หลวงปู่โต๊ะ วัดสระเกษ จ.อ่างทอง
    ๒๖. หลวงพ่อสนิท วัดศิลาขันธ์ จ.อ่างทอง
    ๒๗. หลวงพ่อสาย วัดท้องคุ้ง จ.อ่างทอง
    ๒๘. หลวงพ่อไวย์ วัดบรม จ.อยุธยา
    ๒๙. หลวงพ่อต่วน วัดกล้วย จ.อยุธยา
    ๓๐. หลวงพ่อชม วัดเขาดิน จ.อยุธยา
    ๓๑. หลวงพ่อทิม วัดพระขาว จ.อยุธยา
    ๓๒. หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย จ.อยุธยา
    ๓๓. หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติการาม จ.อยุธยา
    ๓๔. หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช จ.อยุธยา
    ๓๕. หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ จ.อยุธยา
    ๓๖. หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม
    ๓๗. หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม
    ๓๘. หลวงปู่เพิ่ม วัดสรรเพชญ จ.นครปฐม
    ๓๙. หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา จ.นครปฐม
    ๔๐. พระอารย์เจียม วัดไร่ขิง จ.นครปฐม
    ๔๑. หลวงพ่อสุด วัดกาหลวง จ.สมุทรสาคร
    ๔๒. หลวงพ่อแก้ว วัดช่องลม จ.สมุทรสาคร
    ๔๓. หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะองค์ จ.สมุทรสาคร
    ๔๔. หลวงพ่อทองอยู่ วัดท่าเสา จ.สมุทรสาคร
    ๔๕. หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี จ.สมุทรสาคร
    ๔๖. หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ
    ๔๗. หลวงปู่นาค วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ
    ๔๘. หลวงปู่ธูป วัดแคนางเลิ้ง กรุงเทพฯ
    ๔๙. หลวงพ่อทูรย์ วัดโพธินิมิตร กรุงเทพฯ
    ๕๐. หลวงปู่เพิ่ม วัดสามปลื้ม กรุงเทพฯ
    ๕๑. หลวงพ่อผ่อง วัดสามปลื้ม กรุงเทพฯ
    ๕๒. หลวงพ่อหวล วัดพิกุล กรุงเทพฯ
    ๕๓. หลวงพ่อบุญนาค วัดเศวตฉัตร กรุงเทพฯ
    ๕๔. หลวงพ่อผล วัดหนังบางขุนเทียน กรุงเทพฯ
    ๕๕. หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร กรุงเทพฯ
    ๕๖. หลวงพ่อเฮง วัดกัลยาณมิตร กรุงเทพฯ
    ๕๗. หลวงพ่อบุญมี วัดกลางอ่างแก้ว กรุงเทพฯ
    ๕๘. หลวงปู่หนู วัดทุ่งแหลม จ.ราชบุรี
    ๕๙. หลวงปู่สิมมา วัดบ้านหมอ จ.สระบุรี
    ๖๐. หลวงพ่อโอน โคกเดื่อ จ.นครสวรรค์
    ๖๑. หลวงพ่ออ๋อย วัดหนองบัว จ.นครสวรรค์
    ๖๒. หลวงพ่อน้อย วัดหนองโพธิ์ จ.นครสวรรค์
    ๖๓. หลวงพ่อเชื้อ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ จ.ชัยนาท
    ๖๔. หลวงพ่อบุญมี วัดเขาสมอคอน จ.ลพบุรี
    ๖๕. พระอธิการถนอม วัดนางพญา จ.พิษณุโลก
    ๖๖. หลวงพ่อทบ วัดชนแดน จ.เพชรบูรณ์
    ๖๗. พระอาจารย์สำราญ วัดเขาตะเครา จ.เพชรบุรี
    ๖๘. หลวงพ่ออบ วัดถ้ำแก้ว จ.เพชรบุรี
    ๖๙. หลวงพ่อนิ่ม วัดเขาน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์
    หลังจากประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษกครั้งแรกแล้ว กองบัญชาการทหารสูงสุดโดยคำสั่งของ จอมพลขน กิตติขจร ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เดินทางมารับมอบ พระอู่ทองออกศึก จำนวน ๒๕,๗๐๐ องค์ เพื่อแจกแก่ทหารอาสาสมัครรุ่น " จงอางศึก " เดินทางไปร่วมรบในสงครามเวียดนาม นอกจากนี้ ทางวัดยังนำพระที่เหลือประกอบพิธีพุทธาภิเษกอีกสองครั้ง ในวันที่ ๒-๑๐ มี.ค. ๒๕๑๑ และวันที่ ๑๓ เม.ย. ๒๕๑๑ ก่อนที่จะแจกไปตามหน่วยราชการต่าง ๆ ทั่วประเทศ และได้นำพระที่เหลือทั้งหมดบรรจุไว้ในองค์พระปรางค์ที่วัดพระธาตุ เมื่อวันที่ ๒๘ ม.ค. ๒๕๑๒
    พระอู่ทองออกศึก รุ่นแจกทหารจงอางศึก มีประสบการณ์อิทธิปาฏิหารย์มากมาย ในสงครามเวียดนาม ทหารหาญของไทยรุ่นนี้ให้ความเชื่อมั่นในพุทธคุณ และมั่นใจเป็นอันมาก ไม่ว่าจะโดนยิง โดนแทง หรือโดนระเบิด ต่างก็รอดจากเงื้อมมือมัจจุราชมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ ปัจจุบัน พระอู่ทองออกศึกมีอายุการสร้างผ่านไป ๔๗ ปีแล้ว จึงเป็นพระที่มีอายุพอสมควร น่าบูชา และสะสมอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในด้านพุทธคุณแล้ว ต้องยอมรับว่าเป็น " หนึ่ง " ไร้เทียมทาน
    ขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    พระพิมพ์ผงสุพรรณ จงอางศึก ๒๕๑๑

    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250608_183805.jpg IMG_20250608_183830.jpg
     
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,253
    ค่าพลัง:
    +21,396
    FB_IMG_1749400567779.jpg


    พระผงว่าน พิมพ์พระประธานพร พระครูประกาศสมาธิคุณ วัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๖
    พระผงของขวัญ อาจารย์ทิม วัดช้างให้ ปลุกเสก
    พระผงของขวัญ พิมพ์ประทานพร พระครูประกาศสมาธิคุณ วัดมหาธาตุ กทม. ปี 2506 เนื้อว่าน
    พระรุ่นนี้ปลุกเสกพร้อม
    หลวงพ่อทวด วัดพระเชตุพน ปลุกโดย
    อาจารย์ทิม วัดช้างให้
    หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฯ
    หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ
    พระเกจิสายอีสานร่วมเสก
    แม่ชีบุญเรือน ร่วมอธิฐานจิต และพระคณาจารย์อีกหลายท่านร่วมปลุกเสก เนื้อหามวลสารเข้มข้น ทั้งผงเก่าผงใหม่และผงเกสร พระเนื้อผงรุ่นนี้สร้างในปี 2506 โดยมีส่วนผสมของผงวิเศษ เช่น
    ผงพระกรุบางขุนพรหม
    ผงพระกรุวัดสามปลื้ม
    ผงวิเศษหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ
    ผงวิเศษหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    พระผงของขวัญ พิมพ์ประทานพร พระครูประกาศสมาธิคุณ วัดมหาธาตุ กทม. ปี ๒๕๐๖ เนื้อว่าน พระครูประกาศสมาธิคุณ อดีตพระคณาจารย์ดังแห่งวัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์ สร้างประมาณ ปี ๒๕๐๖
    ท่านพระครูประกาศสมาธิคุณแห่งวัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์ กทม. ท่านเป็นพระสงฆ์ที่มีความรู้ความสามารถหลายๆ ด้าน ท่านเป็นพระนักพัฒนาพุทธศาสนาและเป็นพระสายวิปัสสนากรรมฐานท่านยังมีความรู้ความสามารถในด้านพุทธประวัติและประวัติศาสตร์ มีตำแหน่งเป็นรองเจ้าอาวาส และเจ้าคณะ 25 ของวัดมหาธาตุ ท่าพระจันทร์ กทม. เมื่อปี 2496 ท่านเป็นพระสงฆ์ที่ริเริ่มให้วัดมหาธาตุมีการเรียนรู้ในเรื่องวิปัสสนากรรมฐาน จนมีผู้คนสนใจและมีชื่อเสียงมากในสมัยนั้น ในเวลาต่อมาท่านยังได้เป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งและก่อสร้างวัดไทยสารนาท ที่เมืองมฤคทายวันมหาวิหาร ที่ประเทศอินเดียเมื่อปี ๒๕๑๒ ด้วยครับ
    ส่วนวัตถุมงคลของท่านพระครูประกาศสมาธิคุณนั้น ก็มีหลายรุ่นครับและแต่ละรุ่นก็ได้มีพิธีปลุกเสกอย่างดีจากพระเกจิฯ สายกรรมฐาน
    พระเนื้อผงรุ่นนี้สร้างในปี ๒๕๐๖ โดยมีส่วนผสมของผงวิเศษ เช่น ผงพระกรุบางขุนพรหม ผงพระกรุวัดสามปลื้ม ผงวิเศษหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ผงวิเศษหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี เป็นต้น
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของระบบความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    ๑พระผงประทานพรเนื้อว่าน แต่ กดพิมพ์ไม่ค่อยชัด มีคราบไขว่านขึ้นเนื้อองค์พระ
    ๒ ผ้ายันต์พระธรรมจักร
    ยกชุด
    .....380.....
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของระบบความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    ๑ พระเนื้อว่าน แต่ กดพิมพ์ไม่ค่อยชัด มีคราบไขว่านขึ้นเนื้อองค์พระ
    ๒ ผ้ายันต์พระธรรมจักรหลวงพ่อประกาศ
    ยกชุด ๒ รายการ

    ให้บูชา 350 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาท
    ครับ

    IMG_20250608_193925.jpg IMG_20250608_193954.jpg
    IMG_20250609_122938.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มิถุนายน 2025 at 12:34
  5. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,253
    ค่าพลัง:
    +21,396
    FB_IMG_1749452970104.jpg FB_IMG_1749452972714.jpg

    พระสมเด็จไม่เสร็จทุกราย
    พระสมเด็จเกศไชโย รุ่นประวัติศาสตร์ ปี 2531
    ท่านเจ้าอาวาสวัดไชโย เมื่อครั้งปี พ.ศ.2470 มีความประสงค์จะลงรักปิดทองใหม่ให้กับ องค์หลวงพ่อพระมหาพุทธพิมพ์ (หลวงพ่อโต) ซึ่งเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ภายในวิหารวัดไชโย สร้างโดย สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ท่านจึงเตรียมทำการลอกทองเก่าออกจากองค์พระ และได้บอกบุญกับพุทธศาสนิกชน เพื่อหาปัจจัยมาปิดทองใหม่ให้กับองค์หลวงพ่อพระมหาพุทธพิมพ์ แต่ยังไม่ทันได้ดำเนินการ ท่านได้มรณภาพลงเสียก่อน การดำเนินการปิดทองใหม่จึงได้หยุดชะงักลง ไม่มีผู้ใดดำเนินการต่อ
    จนกระทั่ง พ.ศ.2531 พระครูพุทธพิมพานุรักษ์ (เฉลิม จันทวัณโณ) เจ้าอาวาส ได้ริเริ่มที่จะดำเนินการปิดทององค์หลวงพ่อมหาพุทธพิมพ์ต่ออีกครั้งให้แล้วเสร็จ ซึ่งก็ได้เกิดเหตุการณ์มหัศจรรย์ขึ้น คือ หลวงพ่อมหาพุทธพิมพ์ได้มาปรากฏในฝันของ ดร.เถลิง เหล่าจินดา โดยมาบอกกล่าวอนุญาตให้ดำเนินการลงรักปิดทองใหม่ได้ ขณะเดียวกัน ท่านเจ้าอาวาสก็ได้เกิดนิมิตว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ผู้สร้างองค์หลวงพ่อมหาพุทธพิมพ์ มาให้คำแนะนำกับท่านว่าให้นำผงและทองเก่าที่กะเทาะลอกออกมาจากองค์หลวงพ่อมหาพุทธพิมพ์นั้น มาสร้างเป็นพระสมเด็จ ให้ประชาชนนำไปบูชา โดยผงที่ลอกออกมาก็สร้างเป็น พระสมเด็จเกศไชโย รุ่นประวัติศาสตร์ 31 ส่วนทองคำที่ลอกออกมา ก็นำไปเป็นส่วนผสมสร้างพระทองคำ
    ท่านเจ้าอาวาส และ ดร.เถลิง เหล่าจินดา จึงดำเนินการทำพิธีลงรักปิดทองใหม่ให้กับองค์หลวงพ่อมหาพุทธพิมพ์ และได้นำผงที่ลอกออกมาสร้างเป็น พระสมเด็จเกศไชโย รุ่นประวัติศาสตร์ 31 พร้อมกับทั้งเป็นการระลึกถึงวาระครบรอบ 200 ปี ชาตะของพระสมเด็จพระพุทธาจารย์โต พรหมรังสี ด้วย
    ในการสร้าง พระสมเด็จ รุ่นประวัติศาสตร์31 นี้ ยังได้ใช้พระประสกที่ร่วงหล่นลงมาจากองค์พระมหาพุทธพิมพ์ มารวมเป็นมวลสารด้วย โดยในครั้งแรกมีพระประสกร่วงหล่นมาเพียง 1 อัน แต่นายช่างที่มาช่วยสร้าง พระสมเด็จรุ่นประวัติศาสตร์31 และเจ้าอาวาส ได้คิดว่าถ้าหากมีพระประสกมาเป็นมวลสารเพิ่มขึ้นอีก ก็จะช่วยเพิ่มพุทธานุภาพให้กับ พระสมเด็จรุ่นประวัติศาสตร์31 ให้มากยิ่งขึ้น และสิ่งมหัศจรรย์ก็ได้เกิดขึ้นอีก เมื่อท่านเจ้าอาวาสได้อธิษฐานจิตขอให้หลวงพ่อพระมหาพุทธพิมพ์ ประทานพระประสกเพิ่มขึ้นอีก และเมื่อมีการสำรวจองค์หลวงพ่ออีกครั้งก่อนดำเนินการปิดทองใหม่ ปรากฏว่ามีพระประสกชำรุดร่วงหล่นจากองค์หลวงพ่อเพิ่มอีก 47 อัน จึงเป็นอันว่าได้มีพระประสกจากองค์หลวงพ่อมหาพุทธพิมพ์มาเป็นมวลสารศักดิ์สิทธิ์ให้กับ พระสมเด็จเกศไชโยรุ่นประวัติศาสตร์31 เป็นจำนวนมาก และทางวัดได้จัดให้มีพิธีมหาพุทธาภิเษก ในวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ.2531 โดยมีพระเกจิอาจารย์ทั่วประเทศจำนวนมากถึง 108 รูป มาร่วมพิธี และสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร เสด็จมาเป็นองค์ประธานจุดเทียนชัย
    พิมพ์ทรงของ พระสมเด็จเกศไชโยรุ่นประวัติศาสตร์31 แบ่งออกได้ 7 พิมพ์ โดยพิมพ์นิยมสุด คือ พิมพ์ฐาน 7 ชั้น
    โดย พระสมเด็จเกศไชโยรุ่นประวัติศาสตร์31 พิมพ์ฐาน 7 ชั้น แบ่งออกได้เป็น 6 พิมพ์ คือ
    1. พระสมเด็จเกศไชโย รุ่นประวัติศาสตร์ พิมพ์นิยมฐาน 7 ชั้น อกร่อง พิมพ์มีจุดไข่ปลาใต้ฐาน
    2. พระสมเด็จเกศไชโย รุ่นประวัติศาสตร์ พิมพ์นิยมฐาน 7 ชั้น อกร่อง พิมพ์มีขีดใต้ครอบแก้ว
    3. พระสมเด็จเกศไชโย รุ่นประวัติศาสตร์ พิมพ์นิยมฐาน 7 ชั้น อกร่อง พิมพ์ธรรมดา
    4. พระสมเด็จเกศไชโย รุ่นประวัติศาสตร์ พิมพ์นิยมฐาน 7 ชั้น อกตัน พิมพ์ใหญ่
    5. พระสมเด็จเกศไชโย รุ่นประวัติศาสตร์ พิมพ์นิยมฐาน 7 ชั้น อกตัน พิมพ์กลาง
    6. พระสมเด็จเกศไชโย รุ่นประวัติศาสตร์ พิมพ์นิยมฐาน 7 ชั้น อกตัน พิมพ์เล็ก
    พระสมเด็จเกศไชโยรุ่นประวัติศาสตร์31 พิมพ์รองอื่น ๆ ได้แก่
    พิมพ์ 3 ชั้น ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 พิมพ์ คือ พิมพ์ 3 ชั้นฐานหมอน หูบายศรี (นิยม), พิมพ์ฐาน 3 ชั้น พิมพ์ใหญ่, พิมพ์ฐาน 3 ชั้น พิมพ์ต้อ
    พิมพ์ 5 ชึ้น อกตัน หูบายศรี
    พิมพ์ 6 ชึ้น อกร่อง ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 พิมพ์ คือ พิมพ์อกร่อง แขนกลม กับ พิมพ์อกร่อง แขนเหลี่ยม
    พิมพ์ 9 ชึ้น อกตัน หูบายศรี
    พิมพ์คะแนน ฐาน 3 ชั้น
    พิมพ์คะแนน ฐาน 7 ชั้น ซั่งแบ่งย่อยออกเป็น 4 พิมพ์ คือ พิมพ์แขนเหลี่ยม, พิมพ์แขนกลม, พิมพ์แขนวี, พิมพ์องค์พระล่ำ
    ข้อสังเกต พิจารณา พระสมเด็จเกศไชโยรุ่นประวัติศาสตร์31
    1. สังเกตได้จากด้านหลังขององค์พระ จะเป็นลายผ้า หรือลายตะแกรง ซึ่งจะมองเห็นได้ค่อนข้างชัดเจน
    2. พระสมเด็จเกศไชโยรุ่นประวัติศาสตร์ สร้างในปี พ.ศ.2531 จะมีตราประทับตรายางของวัดไชโย เป็นรูปสิงห์ โดยหมึกที่พิมพืจะมีสีออกส้ม หรือส้มอมแดง
    3. ถ้าเป็นพระที่ไม่มีตราประทับด้านหลังของวัด ก็จะเป็นพระที่วัดไชโยถวายให้วัดทางภาคเหนือ ซึ่งเป็นวัดที่วัดไชโยให้ความอนุเคราะห์อยู่
    4. พระสมเด็จเกศไชโยรุ่นประวัติศาสตร์31 มักจะมีแป้งโรยพิมพ์ติดอยู่ทั่วองค์พระ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
    5. เนื้อพระจะเป็นเนื้อผงน้ำมัน และเนื้อพระจะร่วน ฟู ไม่แห้งแข็ง และพระบางองค์จะมีคราบน้ำมันตังอิ๊วผุดขึ้นมาบนเนื้อพระ
    6. เนื่องจาก พระสมเด็จเกศไชโยรุ่นประวัติศาสตร์31 สร้างจากผงเก่าและทองเก่าที่ลอกออกจากองค์หลวงพ่อมหาพุทธพิมพ์ ในเนื้อพระสมเด็จจึงมีผงทองปนอยู่ในเนื้อพระ มองเห็นได้ค่อนข้างชัดในพระเกือบทุกองค์ เมื่อองค์พระกระทบกับแสงจะสังเกตเห็นประกายทองในเนื้อพระ แทบจะทุกองค์ โดยบางองค์มีมาก มีน้อย แตกต่างกันไป
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    พระสมเด็จวัดเกศไชโยรุ่นประวัติศาสตร์พิมพ์ใหญ่ กล่องเดิม

    ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250609_140605.jpg IMG_20250609_140634.jpg
     
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,253
    ค่าพลัง:
    +21,396
    Y5405685-0.jpg

    เหรียญพระพุทธจริยาปางพยาบาลภิกษุอาพาธ วัดขนอนเหนือ จ.อยูธยา รักษาโรค ป้องกันภัย ให้โชคลาภ
    สมัยหนึ่งพระพุทธเจ้าเสด็จตรวจเสนาสนะ (ที่อยู่) ของพระภิกษุสาวกโดยมีพระอานนท์ตามเสด็จ ครั้ง นั้นได้ทอดพระเนตรเห็นภิกษุรูปหนึ่งนอนป่วยอยู่ตามลำพังด้วยโรคท้องเสีย อย่างรุนแรง ผ้านุ่งผ้าห่มเปรอะเปื้อนด้วยปัสสาวะและอุจจาระ ทรงทราบว่าไม่มีผู้ดูแล จึงทรงประคองภิกษุรูปนั้นด้วยพระมหากรุณา ทรงพยาบาลให้ได้รับความสบายโดยมีพระอานนท์คอยช่วยเหลือ จากนั้นตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายให้ประชุมกันแล้วรับสั่งว่า ขอให้ภิกษุช่วยเหลือเกื้อกูลกัน โดยเฉพาะในยามเจ็บไข้ เพราะพวกเธอได้สละบ้านเรือนออกมาประพฤติพรหมจรรย์ห่างจากญาติมิตร ถ้าพวกเธอไม่ดูแล กันเองใครเล่าจะดูแล จากนั้นได้ตรัสถึงอานิสงส์การพยาบาลภิกษุอาพาธ ว่า “ภิกษุทั้งหลาย ผู้ใดพยาบาลเราตถาคต ก็พึงพยาบาลภิกษุอาพาธเถิด”
    พระพุทธจริยาปางพยาบาล วัดขนอนเหนือ ออกที่วัดขนอนเหนือเมื่อ วันที่ 23 สิงหาคม 2552 ปลุกเสก 2 รอบ รอบแรกปลุกเสกที่วัดสุวรรณ อยุธยาเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2552 รอบสองปลุกเสกที่วัดขนอนเหนือ วันที่ 23 สิงหาคม 2552 โดยพระเกจิคณาจารย์ อยุธยาหลายท่านเช่น หลวงพ่อหวล วัดพุทไธสวรรค์,หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติการาม,หลวงพ่อสวัสดิ์ วัดศาลาปูน,หลวงพ่ออุดม วัดพิชัย เหรียญ ทองแดง สร้าง 10000 เหรียญ ครับ
    ให้กล่าวคำบูชาพอพร ทำน้ำมนต์อาบรักษาโรค ได้ผลมามากมาย จนปัจจุบันมีคนมาแก้บนกันทุกวัน

    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)

    get_auc3_img (16).jpeg

    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    IMG_20250609_143308.jpg IMG_20250609_143332.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มิถุนายน 2025 at 16:21
  7. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,128
    ค่าพลัง:
    +7,166
    -ขอจองครับ
     
  8. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,253
    ค่าพลัง:
    +21,396
    กัญชาระบุเป็นยาในตำราพระโอสถพระนารายณ์
    ของมงคลสำหรับ สายเขียวสายสมุนไพร
    หลวงพ่อบัญชานี้อยู่ที่วัดหนองนามา100กว่าปีก่อนสงครามโลกครั้งที2 ประวัติของท่าน ท่านเป็นท่านขุนหัวหน้านักรบเวลาจะออกรบสมัยก่อนท่านจะเป่าคาถาด้วยกัญชาให้ลูกคนที่ออกรบให้แคล้วคาดและได้รับชัยชนะทุกครั้งและทีนี้ตอนมาอยุ่ที่วัด มีโยมมาสาบานเลิกกัญชาถ้าดูถูกท่านหรือทำไม่ได้ตามคำสาบานจะหัวเราะไม่หยุด ถ้ามาเลิกเหล้าแต่ทำไม่ได้ก็จะเจ็บออดๆแอดๆ ไปหาหมอก็ไม่เจอโรคอะไรแต่พอมาขอขมาพ่อบัญชาก็จะดีขึ้น
    ปลุกเสกที่วัดเบญ 1 พรรษา และ มาปลุกเสกที่ วัดหนองนาอีกรอบ
    ---------
    พ่อบัญชา หลายท่านอาจสงสัย ว่าท่านมีจริงไหม?หรือถูกสร้างขึ้นมาเล่นๆหรือป่าว?
    จริงๆท่านมีตัวตนนะครับ เมื่อสมัย 100กว่าปีที่แล้ว ตามประวัติท่านมียศเป็น ท่านขุน มีสุดยอดวิชาอาคมที่มีความเฉพาะตัว คือเสกมนต์ด้วยการดูดกัญชา พ่นควันออกมาเป่าคาถาให้ลูกศิษย์ไปออกรบ คงกระพันชาตรี หนังเหนียว
    แต่ประสบการณ์ความศักดิ์สิทธิ์ของท่าน ที่ชาวบ้านต่างยอมรับคือ ความศักดิ์สิทธิ์เรื่อง โชคลาภ
    มาขอโชคของลาภจากท่าน ได้ถูกหวย ถูกรางวัลกันบ่อยครั้ง ส่วน ชาวบ้านแถววัด ถูกรางวัลที่ 1 กันหลายคน จึงจัดสร้างรูปบูชาของท่าน และวัตถุมงคล จำนวนนึง ถวายให้วัด ให้ประชาชนได้บูชา
    วัดถุมงคล ของท่านถือเป็นรุ่นแรกทั้งหมด มีรูปหล่อ กับ เหรียญ
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    หวานเจี๊ยบบบบบบ

    ให้บูชา 400 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)

    IMG_20250609_143132.jpg IMG_20250609_143215.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มิถุนายน 2025 at 19:15
  9. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,253
    ค่าพลัง:
    +21,396
    FB_IMG_1749207163624.jpg

    หลวงพ่อทวด วัดบวรนิเวศวิหาร กทม. ปี๒๕๓๘ มวลสารพระจิตรลดา อาจารย์นองแห่งวัดทรายขาวร่วมปลุกเสกด้วย
    เนื้อว่าน ผสมผงจิตรลดา
    ด้านหลังบรรจุ ผงตะไบพระกริ่ง รุ่น ปวเรศ และ ผงตะไบพระพุทธชินราช รุ่น อินโดจีน
    ถือว่าจัดเป็นอีกพิมพ์พระพ่อทวดของวัดบวรฯ ที่เริ่มหายาก ด้วยมวลสารศักดิ์สิทธิ์ๆสำคัญๆมากมายและพิธีใหญ่

    ประกอบด้วยมวลสารหลักที่สำคัญๆ ดังนี้
    - ผงจิตรลดาเก่า
    - ผงจิตรลดาใหม่ รุ่นโครงการหลวง CP
    - ผงไพรีพินาศ
    - ผงพระศาสดา
    - ดินกากยายักษ์
    - ข้าวสารหิน และ ที่สำคัญมีเส้นพระเกศาของสมเด็จ พระสังฆราช พระญาณสังวร
    - ผงสมเด็จวัดระฆัง
    - วัดเกศไชโย
    - มวลสารวัดปากน้ำ
    - มวลสารหลวงพ่อเกษม, หลวงพ่อคูณ, หลวงพ่อแพ, หลวงพ่ออุตตมะ, หลวงพ่อเปิ่น,
    - และมวลสารพระพุทธศักดิ์สิทธิ์จากทั่วประเทศ
    พิธีพุทธาภิเษกใหญ่ 2 วาระ
    ครั้งแรก โดยสมเด็จพระพุฒาจารย์วัดสระเกศ เป็นประธานจุดเทียนชัย พระเถราจารย์ทั่วประเทศ 108 รูป นั่งปรกอธิษฐานจิต ( ▪️พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว เข้าร่วมปลุกเสกด้วย )
    ครั้งที่2 พิธีพุทธาภิเษก เสาร์ 5 ณ พระอุโบสถ วัดบวรนิเวศวิหาร กทม.
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250609_143517.jpg IMG_20250609_143541.jpg IMG_20250609_143447.jpg
     
  10. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,253
    ค่าพลัง:
    +21,396
    FB_IMG_1749507970548.jpg
    หลวงพ่อดาบส ท่านเป็นพระอริยะเจ้า เป็นพระบุญฤทธิ์ และ อิทธิฤทธิ์ เป็นพระสุปฏิปันโนที่ควรแก่การสักการะ กราบไหว้ เมื่อท่านมรณภาพแล้วขนาดหัวใจของท่าน ยังเผาคนไหม้ แถมยังแปรสภาพเป็นพระธาตุ สีเขียวมรกตครูบาอาจารย์หลายท่าน ให้ความยกย่อง บางท่านให้ศิษย์ไปกราบไว้ ไปทำบุญ ไปเรียนวิชากับท่าน
    “หลวงพ่อดาบส สุมโน
    ” เดิมชื่อ “สง่า” นามสกุล “เจริญจิตต์”
    เกิดเมื่อวันที่ ๑๒ กัน ยายน ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ พ.ศ.๒๔๖๗ ปีชวด ตำบลบางกระไชย อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี
    เป็นลูกคนที่ ๖ ในจำนวนทั้งหมด ๘ คน
    บิดาชื่อ “นายเถียน” มารดาชื่อ “นางเวียง”
    ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๗๔ ขณะอายุได้ ๗ ปี มารดาก็ถึงแก่กรรมและต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๗๘ อายุได้ ๑๑ ปี “เด็กชายสง่า” ก็ต้องสูญเสียบิดาบังเกิดเกล้าไปอีกคน จึงอยู่ภายใต้การดูแลของ “คุณป้า” และเริ่มเรียนหนังสือชั้นประถมศึกษาที่ ๑ โรงเรียนวัดบางกระไชย จบชั้นประถมปีที่ ๔ เมื่อ พ.ศ.๒๔๑๘
    ครั้นเมื่อปี พ.ศ.๒๔๘๕ อายุได้ ๑๘ ปี “คุณป้า” ได้นำ “เด็กชายสง่า” ไปบรรพชาที่ “วัดจันทนาราม จังหวัดจันทบุรี” เพื่อเรียนปริยัติธรรมซึ่งต่อมาสามารถ สอบได้ทั้ง “นักธรรมตรี” และ “นักธรรมโท”
    ในปี พ.ศ.๒๔๘๗ อายุครบ ๒๐ ปี “สามเณรสง่า” จึงอุปสมบทเป็น “พระภิกษุ” โดยมีท่าน “เจ้าคุณอมรโมลี” เป็นอุปัชฌาย์ได้ฉายาว่า “สุมโน” กระทั่งปี พ.ศ.๒๔๘๙ อันเป็นพรรษาที่ ๔ “พระภิกษุสง่า สุมโน” ได้กราบลา “พระอุปัชฌาย์” เพื่อเดินทางไปศึกษา “ภาษาบาลี” กับท่าน “เจ้าคุณรัชมงคลมุณี” วัดหนองบัว จังหวัดระยอง ต่อมาในปี
    พ.ศ.๒๔๙๐ ด้วยจิตที่มุ่งมั่นจะปฏิบัติธรรม แสวงหาธรรม จึงออกเดินธุดงค์ไป “จังหวัดเชียงใหม่” ตามเส้นทาง “อำเภอดอยสะเก็ด” สู่ “ถ้ำเชียงดาว” อำเภอเชียงดาวได้ธุดงค์พลัดเข้ามาสู่เขตพื้นที่ของ “อำเภอพร้าว” ในปี ๒๔๙๐ ถึง ๒๔๙๔ จึงพำนักและปฏิบัติธรรมใน “ป่าช้า” ของตำบลเวียง อำเภอพร้าว หรือ “วัดป่าเลไลย์” เป็นเวลาถึง ๔ ปี
    ปี พ.ศ.๒๔๙๔ “พระภิกษุสง่า สุมโน” เดินทางมาพำนักที่ “วัดเจดีย์หลวง” จัง หวัดเชียงใหม่ โดยปฏิบัติธรรมกับ “เจ้าคุณวินัยโกศล” (จันทร์ กุสโล) หรือ “พระพุทธพจนวราภรณ์” แล้วจึงออกจาก “วัดเจดีย์หลวง” ธุดงค์ไปตามเส้นทางสู่ “อำเภอดอยสะเก็ด” อีกครั้งพร้อมลัดเลาะไปตามป่าเขาถึง “ดอยพระเจ้าหล่าย” วันนั้นเป็น วันอาทิตย์ที่ ๒๘ มกราคม พ.ศ.๒๔๙๔ ตรงกับแรม ๖ ค่ำ เดือนยี่เวลา ๑๗.๐๐ น. “พระภิกษุสง่า สุมโน” จึงตั้งสัจจะอธิษฐาน ณ ดอยพระเจ้าหล่าย ขอสละเพศบรรพชิตขอลาสิกขาบทจากการเป็น “พระภิกษุสงฆ์” โดยหันมาถือการครองเพศเป็น “ดาบส” ที่มีเพียง ผ้าอังสะและผ้าสบง เพียงสองผืนหุ้มห่อร่างกายไว ้จากนั้นจึงครองเพศเป็น “ดาบส” และปฏิบัติธรรมอยู่บน “ดอยพระเจ้าหล่าย” โดยมิได้ฉันทั้งอาหาร และน้ำถึง “๓ วัน ๓ คืน” จากนั้นจึงเดินทางลงจากดอยเพื่อธุดงค์ไปจังหวัด ต่างๆ ทั้ง แพร่ ลำปาง น่าน ยะลา ชุมพร และท้ายสุดปฏิบัติธรรมที่ “อาศรมไผ่มรกต” ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมือง จ.เชียงราย จนมรณภาพ เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๔๓สิริอายุได้ ๗๖ ปี
    “หลวงพ่อดาบส สุมโน” นับเป็น “ผู้บำเพ็ญเพียร” ด้วยศีลาจารวัตร บริสุทธิ์ผุดผ่องจนได้พบแสงสว่างแห่งธรรมเจิดจ้า และธรรม ที่ท่านแสดงให้บรรดาศิษย์ได้ยังความสุข ความสงบ ความร่มเย็น ให้เกิดขึ้นในจิตใจของผู้ที่เคยฟังธรรมจากท่านจึงนับได้ว่าท่านเป็น “ประทีปธรรม” แห่งภาคเหนือที่ยังคงอยู่ในความทรงจำ และในจิตใจ ของประชาชนตลอดไป
    พระสมเด็จพิมพ์ปรกโพธิ์เก้าใบ หลังยันต์จักรแก้วพระพุทธเจ้า หลวงพ่อดาบส สุมโน แห่งอาศรมไผ่มรกต จังหวัดเชียงราย
    เนื้อผงวิเศษมหาพุทธคุณ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ปีพ.ศ. 2540 ออกที่อาศรมเวฬุวัน จังหวัดเชียงราย สร้างไว้ก่อนท่านมรณะภาพ 3ปีเศษ
    สัญลักษณ์ยันต์ "กงจักร" ด้านหลังพระ ความหมายที่แท้จริง ก็คือ จักรแก้วพระพุทธเจ้า อันเป็นอาวุธของพระพุทธเจ้าที่มี ความสำคัญที่สุด ใช้ปราบมาร ปราบสิ่งชั่วร้าย มีฤทธานุภาพสูงสุด ดวงแก้ว นั้นมีรัตนะเจ็ด คือ แก้ว 7 ประการ ดังนี้ คือ จักรแก้ว 1 ช้างแก้ว 1 ม้าแก้ว 1 ดวงแก้วมณี 1 นางแก้ว 1 คฤหบดี (ขุนคลัง) แก้ว 1 ขุนพล
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    ปรกโพธิ์เก้า
    ให้บูชา 350 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)

    FB_IMG_1749507958969.jpg FB_IMG_1749507961887.jpg FB_IMG_1749507964561.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2025 at 13:06
  11. Karoonsur

    Karoonsur Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กรกฎาคม 2018
    โพสต์:
    393
    ค่าพลัง:
    +227
    จองครับ
     
  12. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,253
    ค่าพลัง:
    +21,396
    รับทราบครับขอบคุณครับ
     
  13. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,253
    ค่าพลัง:
    +21,396
    1749570617420.jpg

    ประวัติโดยย่อ พระครูอุดมภาวนาธิมุต (หลวงพ่อเพย อุตฺตโม)
    ชื่อเดิม ลำเพย นามสกุล พันธุมิตร เกิดวันอังคาร ขึ้น ๙ ค่ำ ปีขาล ตรงกับวันที่ ๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๘๑ ณ บ้านเลขที่ ๙ ม.๖ ตำบลวังแดง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บิดาชื่อ รอด มารดาชื่อ เหนี่ยง
    ได้บวชเป็นสามเณร เมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๙๗ ณ วัดบึง ตำบลวังแดง พระอุปัชฌาย์ พระครูอาทรสุตคุณ วัดศักดิ์ และอุปสมบทเมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๐๒ ณ วัดบึง ตำบลวังแดง พระอุปัชฌาย์ พระครูวิบูลวิหารธรรม วัดมะขามโพลง ตำบลท่าเจ้าสนุก อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการเขียน วัดวังแดงใต้ ตำบลวังแดง พระอนุสาวนาจารย์ พระสมวงษ์ วัดวังแดงเหนือ ตำบลวังแดง ได้รับฉายา อุตฺตโม
    วิทยฐานะ สำเร็จการศึกษา ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ณ โรงเรียนวัดบึง ตำบลวังแดง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สอบนักธรรมเอกได้ปี พ.ศ. ๒๕๐๙
    ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลวังแดง อำเภอท่าเรือ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๔๐ และเป็นพระอุปัชฌาย์ในเขตตำบลวังแดง และได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบึงตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๐๘ จนถึงปัจจุบัน โดยได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูอุดมภาวนาธิมุต
    ปัจจุบันอายุ ๘๔ ปี พรรษา ๖๒ มีความรู้พิเศษและความชำนาญการทางจิตรกรรมและสถาปัตยกรรม มีความเมตตาปรานีช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของญาติโยม
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    พระปิดตารุ่น ๑ หลวงพ่อเพยวัดบึง อยุธยา หลังยันต์นะฉัพพรรณรังสีเลี่ยมบูชา
    ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)

    IMG_20250610_132114.jpg IMG_20250610_132219.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มิถุนายน 2025 at 21:36
  14. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,128
    ค่าพลัง:
    +7,166
    ขอจองครับ
     
  15. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,253
    ค่าพลัง:
    +21,396

    เปิดดูไฟล์ 6232155
    โลกใบนี้มีเรื่องราวแปลกๆ เกิดขึ้นมากมายในแต่ละวันครับ บางคนเรียกปรากฏการณ์เหลือเชื่อที่เกิดขึ้นกับพวกเขาว่าเป็นเรื่องของ ปาฏิหาริย์

    ว่ากันว่าปาฏิหาริย์มิใช่เรื่องไร้สาระ เพราะปาฏิหาริย์เป็นเรื่องของปรากฏการณ์แปลกประหลาดที่อยู่เหนือธรรมชาติ คนที่จะเข้าใจในเรื่องปาฏิหาริย์จึงค่อนข้างจำกัดอยู่แต่เฉพาะกับคนที่เคยประสบพบเห็นเท่านั้น

    นางเวียน ปลาบปลื้ม ชาวบ้านห้วยทรายใต้ ได้นำไม้ทองหลางไปค้ำหลังคาบ้านไว้สองอัน นับตั้งแต่วันที่ได้นำไม้ทองหลางไปค้ำทำให้ครอบครัวของนางเวียน ปลาบปลื้ม ต้องอาถรรพ์ มีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจตลอดเวลา เป็นต้นว่าคนในครอบครัวมีการเจ็บไข้ได้ป่วยหมุนเวียนกันอยู่โดยตลอด

    นางเวียนจึงได้เข้ามากราบนมัสการหลวงปู่เพื่อขอความช่วยเหลือ หลวงปู่ท่านนั่งสมาธิอยู่สักครู่หนึ่งจึงกล่าวขึ้นว่า

    บ้านเอ็งมีไม้ทองหลางค้ำอยู่สองอัน ให้เอาออกเสียแล้วจะหาย

    นางเวียนตกตะลึงกับคำทำนายของหลวงปู่ที่ทราบว่าบ้านของตนเองมีไม้ทองหลางค้ำอยู่สองอันจริง ซึ่งสาเหตุที่ต้องนำไม้ไปค้ำเนื่องจากครอบครัวของตนเองมีฐานะยากจนและบ้านที่พักอาศัยก็อยู่ในสภาพทรุดโทรม หลวงปู่ท่านจึงแนะนำว่า

    อย่าอยู่ตรงนั้นเลย ให้ย้ายไปอยู่ที่อื่นแล้วเอ็งจะดีขึ้น

    นางเวียนเชื่อถือในคำพูดของหลวงปู่จึงได้ย้ายครอบครัวไปอยู่ริมทะเลแถบบางสะพานใหญ่ ซึ่งต่อมาปรากฏว่าครอบครัวของนางเวียนมีฐานะดีขึ้นจริงๆ เพราะที่ดินที่ตนเองได้จับจองไว้มีราคาสูงขึ้น เนื่องจากเป็นที่ดินที่อยู่ติดริมทะเล

    [​IMG]

    คุณธงชัย ปฐมวัฒนานุรักษ์ นักธุรกิจเจ้าของกิจการแห่งหนึ่งในจังหวัดนครปฐม ได้ชื่อว่าเป็นคนใจบุญสุนทานและเคร่งครัดยึดมั่นในหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าเป็นที่สุด

    วันหนึ่งคุณธงชัยได้ซื้อรถยนต์คันใหม่ ขณะที่ขับรถกลับบ้านได้ประสบอุบัติเหตุรถยนต์พลิกคว่ำบริเวณทางโค้งวัดธรรมศาลา ตัวคุณธงชัยได้กระเด็นทะลุกระจกหน้ารถออกไปนอนหมดสติอยู่กลางถนน

    พลเมืองดีได้นำคุณธงชัยส่งโรงพยาบาล คุณธงชัยนอนหมดสติอยู่ ๒๗ วัน เนื่องจากมีอาการสาหัส นายแพทย์จึงต้องทำการผ่าตัดเปิดกระโหลกศรีษะ โอกาสรอดชีวิตค่อนข้างมีน้อยมาก แต่ต่อมาได้มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้นเนื่องจากคุณธงชัยได้ฟื้นคืนสติขึ้นมาได้

    คุณธงชัยได้เล่าให้ฟังว่าในขณะที่ตนเองหมดสติสลบไป ๒๗ วันนั้น ย่างเข้าวันที่ ๒๗ มีความรู้สึกตัวว่ากำลังเดินวนเวียนอยู่ในป่าทึบหาทางออกไม่ได้ ทันใดนั้นก็มีพระภิกษุชรารูปร่างใหญ่โตผิวพรรณวรรณะผ่องใสสง่างามปรากฏร่างขึ้นพร้อมกับกล่าวว่า

    โยมกำลังหาทางกลับหรือ อาตมาจะไปส่งตามมาสิ

    คุณธงชัยได้เดินตามพระภิกษุชรารูปนั้นมาจนพ้นแนวป่าก็พบกับแสงสว่างจ้าแล้วก็รู้สึกตัวฟื้นขึ้นมา หลังจากที่ได้พักรักษาตัวจนหายเป็นปกติ คุณธงชัยได้กลายมาเป็นคนใจบุญมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยมีการบริจาคทรัพย์ทำบุญตามวัดต่างๆ อยู่เสมอ

    วันหนึ่งคุณธงชัยได้เดินทางไปทำบุญที่ วัดหนองแก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อก้าวขึ้นไปบนกุฏิเจ้าอาวาส ภาพแรกที่คุณธงชัยเห็นคือพระภิกษุชรารูปร่างสูงใหญ่นั่งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางกุฏิ คุณธงชัยจำได้ทันทีว่าเป็นพระรูปเดียวกับที่พบในนิมิตและนำทางคุณธงชัยออกมาจากป่าทึบ ท่านชื่อ..

    หลวงปู่คำ สุวณณโชโต

    [​IMG]

    อย่างที่บอกแหละครับว่าคนที่จะเข้าใจในเรื่องปาฏิหาริย์ค่อนข้างจำกัดอยู่แต่เฉพาะกับคนที่เคยประสบพบเห็น ดังนั้นจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนางเวียนและคุณธงชัยจึงเป็นเหมือนการบอกเล่าให้อีกหลายคนทราบว่า ปาฏิหาริย์ นั้นมีอยู่จริง

    หญิงชาวบ้านคนหนึ่งรู้จักหลวงปู่คำเป็นอย่างดีและให้ความเคารพเชื่อมั่นอย่างสูงสุด..

    นักธุรกิจชายอีกคนไม่เคยรู้จักหลวงปู่คำมาก่อน ในชีวิตรู้แต่เพียงว่าเชื่อมั่นในการทำความดีและคำสอนของพระพุทธเจ้า..

    ซึ่งเมื่อมีเหตุการณ์คับขันเกิดขึ้นอำนาจของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มองไม่เห็น ก็ได้เปล่งประกายออกมาช่วยเหลือให้รอดปลอดภัยอย่างน่าอัศจรรย์ใจแน่นอนครับ ปาฏิหาริย์ ไม่ใช่เรื่องของ ชนชั้นหรือฐานะ แต่ ปาฏิหาริย์ เป็นเรื่องของ ศรัทธาและความดี ที่ทั้งสองท่านนี้มีอยู่เต็มหัวใจต่างหาก

    จะว่าไปแล้วบางทีทั้งสองเรื่องที่เกิดขึ้นข้างต้นมันอาจจะเป็นเรื่องบังเอิญก็ได้ เพราะเราไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามันเป็นเหตุเป็นผลกันตรงไหน แต่มันก็น่าคิดนะครับว่า

    ทำไมเหตุร้ายที่นางเวียนประสบ จึงเกิดขึ้นหลังจากที่ได้นำไม้ทองหลางมาค้ำหลังคาบ้าน หรือในระหว่างที่คุณธงชัยกำลังนอนรอความตาย แต่ก็รอดมาได้จากการนำทางของหลวงปู่คำ

    [​IMG]

    ผมรู้จักหลวงปู่คำครั้งแรกก็จากการอ่านหนังสือพระเครื่อง ตอนนั้นก็ไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรมากหรอกครับ ทราบเพียงว่าท่านเป็นพระเกจิอาจารย์องค์หนึ่งที่มีอายุถึงร้อยกว่าปีและในวันพุทธาภิเษกพระเครื่องของท่าน มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นหลายอย่างครับ เช่นเสกกันจนโบสถ์สะเทือน หรือพระเกจิอาจารย์บางองค์ที่เข้าร่วมพุทธาภิเษกมีนิมิตเห็นแสงสว่างออกจากตัวของหลวงปู่คำพุ่งเข้าสู่กองวัตถุมงคล ฯลฯ

    ต่อมาพอทราบว่าเพื่อนรุ่นพี่ที่โรงเรียนเป็นเด็กหัวหิน แสงสว่างที่เกิดจากดาวไถในตัวผมจึงพุ่งตรงสู่เพื่อนรุ่นพี่คนนั้นทันที และในที่สุดฟ้าดินก็เป็นใจเพราะต่อมาผมก็ได้มีโอกาสไปเที่ยวบ้านรุ่นพี่ท่านนั้นและได้เข้ากราบนมัสการท่านที่วัด แต่ผมก็ไม่กล้าพูดคุยอะไรกับหลวงปู่หรอกครับ ได้แต่เข้าไปขอเมตตาจากหลวงปู่เพียงแค่พรมน้ำมนต์ให้เท่านั้น

    คุณพ่อของเพื่อนก็แนะนำว่าให้ขอพรจากหลวงปู่ ผมก็ได้แต่ยิ้มไม่กล้าขอ เพราะถ้าขอในตอนนั้นคงเป็นเรื่องขอให้รูปหล่อและเรียนจบ ซึ่งผมคิดว่ามันไม่เหมาะสมสักเท่าไร หลังจากวันนั้นแล้วผมก็ไม่ได้มีโอกาสไปกราบหลวงปู่อีกเลยครับ เพราะทุกคนเมื่อเรียนจบก็แยกย้ายกันไปหมด เด็กหัวหินกับเด็กเมืองชลเลยต้องห่างกันไป

    [​IMG]

    หลวงปู่คำ สุวณณโชโต หรือ พระครูประสิทธิวรการ อดีตเจ้าอาวาสวัดหนองแก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ท่านได้ชื่อว่าเป็นพระสงฆ์ ๕ แผ่นดินครับ เชื่อกันว่านอกจากหลวงปู่คำท่านจะเป็นพระที่มีวาจาศักดิ์สิทธิ์แล้ว ท่านยังเป็นพระที่มีหูทิพย์ ตาทิพย์และสามารถรับรู้เรื่องราวความเป็นไปต่างๆ ด้วย เจโตปริยญาณ

    เจโตปริยญาณ เป็นเรื่องของความสามารถพิเศษที่มีเหนือเกินกว่ามนุษย์ธรรมดาอย่างเราๆ ท่านๆ จะทำได้ครับ ซึ่งการจะได้มาของความสามารถพิเศษนี้ ผู้ที่ได้จะต้องผ่านการฝึกอบรมจิตเจริญปัญญาหรือบำเพ็ญสมาธิวิปัสสนากรรมฐานอย่างเอกอุจนถึงขั้นได้อภิญญา

    ต้องบอกว่าอภิญญาไม่ใช่เรื่องง่ายครับ เพราะถ้าเป็นแบบนั้น ป่านนี้บ้านเราคงมีคนหูทิพย์ ตาทิพย์กันเต็มไปหมด ซึ่งถ้าว่ากันตามเนื้อผ้าแล้วต้องบอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเฉพาะบุคคลจริงๆ

    สำหรับผมแล้วต้องบอกว่าสิ่งที่น่าสนใจที่สุดไม่ได้อยู่ตรงที่ว่าหลวงปู่คำท่านเป็นพระอภิญญาหรือเป็นพระเกจิที่เสกของแล้วขลัง(เพราะเรื่องนี้ผมเป็นพวกเชื่อฝังใจอยู่แล้ว) หากแต่ความน่าสนใจอยู่ตรงที่ว่า กว่าหลวงปู่คำท่านจะได้ความสามารถพิเศษแบบนี้มานั้น ท่านต้องผ่านอะไรมามากกว่า ซึ่งประเด็นนี้เราต้องย้อนอดีตกันไปไกลถึงบ้านหนองแกในสมัยรัชการที่ ๕ ครับ

    หลวงปู่คำ สุวณณโชโต ท่านเกิดปีมะเส็ง พ.ศ.๒๔๓๖ (รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว) ณ บ้านหนองแก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ บิดามารดาชื่อ นายอิ่มและนางแจ้ง สุขศรี

    ด้วยความที่หลวงปู่เป็นเด็กชายที่มีผิวพรรณวรรณะและมีลักษณะของผู้มีบุญญาธิการ บิดามารดาของท่านจึงได้นำท่านไปยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของ หลวงปู่นาค ปุญญนาโค หรือ ท่านพระครูวิริยะธิการี แห่งวัดหัวหิน ซึ่งหลวงปู่นาคได้ตั้งชื่อเด็กชายคนนั้นว่า ทองคำ เพื่อให้สอดคล้องกับนามของท่านคือ นาค แต่ผู้คนทั่วไปกลับพอใจที่จะเรียกเด็กชายทองคำว่า คำ

    [​IMG]

    (พระครูวิริยาธิการี (หลวงปู่นาค) วัดหัวหิน)

    ในสมัยนั้นหลวงปู่นาค ปุญญนาโคท่านได้รับการยกย่องว่าเป็นยอดพระเกจิอาจารย์ที่มีความเชี่ยวชาญทั้งในเรื่องของวิปัสสนากรรมฐานและเรื่องของไสยศาสตร์ เล่ากันว่าด้วยความที่หลวงปู่นาคท่านเป็นพระที่เต็มเปี่ยมไปด้วยบุญฤทธิ์และอิทธิฤทธิ์ ตลอดจนมีปฏิปทาในทางสมณธรรมเป็นเลิศ ทำให้พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชศรัทธาหลวงปู่นาคเป็นอย่างมาก

    พระองค์ทรงนับถือหลวงปู่นาคเสมอด้วยศิษย์กับครู และทุกครั้งที่พระองค์ทรงเสด็จแปรพระราชฐานมาประทับแรม ณ พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน พระองค์ก็จะทรงพระราชดำเนินมานมัสการหลวงปู่นาคทุกครั้งไป นอกจากนี้ยังทรงมีพระบรมราชานุญาตให้หลวงปู่นาคเข้าเฝ้าพระองค์ได้ตลอดเวลาแม้ในยามราตรีครับ

    เด็กชายคำได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานเหมือนเด็กๆ ทั่วไปในสมัยนั้นคือเรียนหนังสือไทยและหนังสือขอมควบคู่กันไป ด้วยความที่ท่านเป็นผู้ที่มีสติปัญญาและไหวพริบปฏิภาณเป็นเลิศ ทำให้ท่านสามารถเรียนรู้วิชาการต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและสามารถนำไปใช้ได้อย่างเชี่ยวชาญ

    หลวงปู่คำท่านได้เข้าอุปสมบทเมื่ออายุได้ ๒๓ ปี ณ วัดหัวหิน เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๙ โดยมี พระครูวิริยาธิการี (หลวงปู่นาค) วัดหัวหิน เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูธรรมโสภิต(หลวงปู่เปี่ยม) วัดเกาะหลัก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และ พระอาจารย์ละมัย อมรธมโม วัดหัวหิน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า สุวรณณโชโต

    หลังจากที่ได้อุปสมบทแล้ว หลวงปู่คำท่านได้จำพรรษา ณ วัดหัวหิน จากการที่ท่านได้ปรนนิบัติรับใช้หลวงปู่นาคอย่างใกล้ชิด ทำให้ท่านได้รับการถ่ายทอดวิชาอาคมต่างๆ ควบคู่ไปกับการฝึกสมาธิเจริญวิปัสสนากรรมฐานเบื้องต้น

    ชีวิตของท่านในช่วงนี้นอกจากการปฏิบัติศาสนากิจอย่างเคร่งครัดแล้วท่านยังได้ศึกษาพระธรรมวินัยต่างๆ ด้วยตัวของท่านเอง การศึกษาอย่างตั้งใจทำให้ท่านแตกฉานในพระปริยติธรรมต่างๆ เป็นอย่างดี

    [​IMG]

    ว่ากันว่าวันเวลานอกจากจะไม่คอยใครแล้ว วันเวลายังย่อมนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงเสมอๆ

    หัวหิน ที่เดิมมีชื่อว่า สมอเรียง เริ่มมีชาวต่างชาติเข้ามาท่องเที่ยวและเผยแพร่ศาสนาคริสต์มากขึ้น ประมาณว่าจะมีการสร้างโบสถ์ไว้สำหรับประกอบพิธีกรรมต่างๆ ครับ หลวงปู่นาคในฐานะศูนย์รวมจิตใจของชาวหัวหินและคณะสงฆ์ในเขตนั้น ท่านได้ตระหนักถึงผลกระทบอันนี้

    ท่านจึงได้เร่งสร้างวัดขึ้นที่บริเวณเขาตะเกียบโดยเฉพาะที่บ้านหนองแก เนื่องจากบริเวณสถานที่ดังกล่าวยังไม่มีวัดวาอาราม ชาวบ้านจะทำบุญกันสักครั้งต้องเดินทางไปทำกันที่วัดหัวหิน ซึ่งอยู่ห่างออกไปเกือบ ๕ กิโลเมตร

    วัดหนองแกในระยะแรกมีสถานะเป็นเพียงสำนักสงฆ์หนองแก เล่ากันว่าพระสงฆ์จากวัดหัวหินเวลาไปบิณฑบาตที่เขาตะเกียบ จะต้องแวะฉันเช้าที่สำนักสงฆ์แห่งนี้เนื่องจากเดินกลับวัดหัวหินไม่ทัน

    ชะรอยหลวงปู่นาคท่านจะทราบเหตุการณ์ในเบื้องหน้าว่าพระภิกษุคำในวันนั้นจะกลายมาเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้เป็นที่พึ่งของชาวบ้านในย่านนี้ เพราะในพรรษาที่ ๓ ตรงกับ พ.ศ.๒๔๖๑ (รัชสมัยของ ร.๖) หลวงปู่นาคท่านได้ส่งพระสงฆ์จากวัดหัวหินจำนวน ๑๑ รูปมาจำพรรษาอยู่ที่วัดหนองแกแห่งนี้ หนึ่งใน ๑๑ รูปนั้นมีหลวงปู่คำรวมอยู่ด้วยครับ

    ถึงตอนนี้...ทายาทธรรมที่หลวงปู่นาคได้สร้างไว้ เริ่มค้นหาตัวตนโดยการสร้างตนเอง ด้วยการบำเพ็ญเพียรด้านวิปัสสนากรรมฐานอย่างจริงจัง และเมื่อมีเวลาโอกาสเหมาะ ท่านก็จะออกเดินธุดงค์แสวงหาความวิเวกพร้อมกับเสาะหาครูบาอาจารย์เพื่อร่ำเรียนวิชาอาคม ต้องยอมรับครับว่าในยุคสมัยนั้นพระเกจิอาจารย์ส่วนมากจะเป็นพระที่ เก่งจริง เพราะแต่ละองค์ล้วนแล้วแต่เป็นเลิศในด้านสมาธิและเชี่ยวชาญในเรื่องของคาถาอาคม ฯลฯ

    [​IMG]

    ในยุคนั้นไม่มีโรงเรียนหรือสถาบันสอนวิชาอาคม ไม่มีการเรียนทางไปรษณีย์และก็ไม่มีการเรียนผ่านโทรศัพท์มือถือ ทางเดียวที่จะได้เรียนคือต้องเดินทางไปขอเรียนโดยตรงกับครูบาอาจารย์ที่วัดของแต่ละท่าน ครูบาอาจารย์ที่ถ่ายทอดวิชาอาคมให้หลวงปู่คำมีหลายองค์ครับ เช่น หลวงปู่เปี่ยม วัดเกาะหลัก หลวงพ่อโสก วัดปากครอง หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง หลวงพ่อกุน วัดพระนอน หลวงพ่อฉุย วัดคงคาราม ฯลฯ

    นอกจากนี้หลวงปู่คำท่านยังได้ศึกษาไสยเวทย์ โหราศาสตร์และวิชาแพทย์แผนโบราณจากตำราของโยมปู่ของท่าน ซึ่งเป็นตำราโบราณที่ตกทอดกันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา ประมาณว่าท่านได้เรียนจนเชี่ยวชาญและสามารถนำมาขยายผลได้จริงครับ

    [​IMG]

    หากเราศึกษาประวัติของพระเกจิอาจารย์ในอดีตก็จะพบว่าบรรดาพระเกจิอาจารย์หลายต่อหลายท่านที่ได้ชื่อว่ามีสมาธิจิตสูงและเพียบพร้อมไปด้วยคุณธรรม มักจะเป็นผู้ที่ผ่านการออกเดินธุดงค์แทบทั้งสิ้น

    ในทางพระพุทธศาสนาการออกเดินธุดงค์นอกจากจะเป็นการฝึกให้ตนเองเป็นผู้ที่ลดละกิเลส ยังเป็นพื้นฐานที่สำคัญของการเจริญภาวนาเพื่อให้เกิดสมาธิและปัญญา ทั้งสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐานตามแนวทางที่พระพุทธเจ้าท่านทรงกำหนดไว้

    โดยปกติแล้วหลวงปู่คำท่านชอบออกเดินธุดงค์ครับ เรื่องราวการออกเดินธุดงค์ของท่านเริ่มต้นประมาณพรรษาที่ ๕ ความชอบของหลวงปู่ต้องเรียกว่าออกพรรษาเมื่อใดท่านก็จะสมาทานออกเดินธุดงค์ทันที สถานที่ที่ท่านเคยไปธุดงค์ถ้าในประเทศหลวงปู่ท่านไปมาหมดแล้วทั่วทุกภาค หากเป็นนอกประเทศท่านก็เดินไปถึง ลาว เขมร พม่าและมาเลเซีย

    ท่านเคยเล่าไว้ว่าการเดินธุดงค์ไม่ใช่ของง่าย เพราะมักจะมีอุปสรรค์มาคอยขัดขวางตลอด ทั้งจากมนุษย์และภูติผีปีศาจ หากเป็นมนุษย์หลวงปู่ท่านจะใช้วิธีการให้อภัย หากเป็นพวกที่มาจากต่างมิติ ท่านก็จะแผ่เมตตาไปให้ และหากพรรษาใดที่ท่านไม่ได้ไปธุดงค์ ท่านก็จะเข้าป่าขึ้นไปบนภูเขาในเขตภาคใต้เพื่อตัดไม้มาสร้างวัด

    ท่านเล่าว่าสมัยก่อนต้นไม้มีเยอะแยะและไม่มีการหวงห้าม การขึ้นเขาเพื่อตัดไม้ก็อาศัยบรรดาพระภิกษุของวัดหนองแก เมื่อตัดแล้วก็ต้องใช้เกวียนลากลงมา หากเป็นต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่มากก็ต้องใช้ไม้หมอนมารองหนุนกลิ้งลงมาจากภูเขาจากต้นไม้กลายมาเป็นกุฏิหลังแรกเสร็จสมบูรณ์ในปี ๒๔๖๖ และมีการสร้างถาวรวัตถุต่างๆ ตามมาอีกหลายอย่างเช่นหอฉัน หอระฆัง ฯลฯ

    ในปี ๒๕๐๙ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีได้เสด็จพระราชดำเนินมาทำพิธีตัดลูกนิมิตอุโบสถ ณ วัดหนองแก ซึ่งในโอกาสนี้ หลวงปู่คำท่านได้สร้างตะกรุดโทนมหาอำนาจด้วยทองคำหนัก ๔ บาท ทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วยครับ

    [​IMG]

    สำหรับในเรื่องที่หลวงปู่คำท่านสามารถล่วงรู้เหตุการณ์เบื้องหน้า ซึ่งในเรื่องนี้ทางพระพุทธศาสนาเราเรียกว่า อนาคตังสญาน นั้น ก็มีหลายต่อหลายเหตุการณ์ครับที่เกิดขึ้นเพื่อตอกย้ำความมหัศจรรย์ของหลวงปู่ในประเด็นนี้ครับ เช่นกรณีของยุทธการที่ป่ากลอย บริเวณหลังเขื่อนแก่งกระจาน เพชรบุรี

    เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์ของตำรวจตะเวณชายแดน ค่ายมฤคทายวัน ซึ่งออกไปปฏิบัติหน้าที่และเกิดการประทะกับกลุ่มผู้ไม่หวังดีต่อประเทศชาติ ในเหตุการณ์นั้นตำรวจถูกยิงเสียชีวิตไปหลายนาย กำลังที่เหลือมีน้อยกว่าต้องถอยร่นหนีเข้าไปในป่า

    ซึ่งก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์นี้ประมาณสองสัปดาห์ หลวงปู่ท่านได้พูดกับตำรวจพลร่มค่ายมฤคทายวันที่ไปกราบนมัสการท่าน ให้ระวังเหตุการณ์ร้ายแรงดังกล่าวแล้ว นอกจากนี้บรรดาตำรวจตะเวณชายแดนที่รอดชีวิตกลับมาได้ ต่างก็เชื่อกันว่าเป็นเพราะบารมีจากวัตถุมงคลของหลวงปู่คำที่พวกเขาพกติดตัวอยู่ช่วยคุ้มครองครับ

    คุณพ่อของพี่เด็กหัวหินเล่าให้ฟังว่า

    หลวงปู่คำเป็นพระอารมณ์ดีและชอบช่วยเหลือชาวบ้าน ใครมีปัญหาเดือดเนื้อร้อนใจอะไรก็มักจะพากันไปหาหลวงปู่เพื่อให้ท่านช่วยปัดเป่าให้ ไม่ว่าจะเป็นของหาย ลูกชายจะบวช ฯลฯ ขนาดที่ว่าบางครั้งท่านจะจำวัดแต่ถ้ามีคนมากราบนมัสการท่าน หลวงปู่ท่านก็จะไม่ยอมจำวัดและอยู่สงเคราะห์เขาจนเสร็จสิ้นท่านจึงจะเข้าจำวัด

    อย่างเช่นตัวของคุณพ่อเองที่สมัยก่อนเวลาเป็นตาแดง แม่ของท่านจะพาไปหาหลวงปู่ที่กุฏิ คุณพ่อบอกว่าไปถึงก็ไม่ต้องมีพิธีรีตอง ไม่ต้องทำบัตรและก็ไม่ต้องจัดยา ขอเพียงแต่ลืมดวงตาให้โตๆ หลวงปู่ท่านเป่าพ้วงเดียว กลับมาวิ่งเล่นต่อได้และพอนอนหลับตื่นขึ้นมาก็หาย

    บางครั้งท่านเห็นคนแถวบ้านบางคนเท้าบวมเดินแบบขาลากมาหาหลวงปู่ ทราบว่าคนนี้เข้าป่าเผลอไปเตะจอมปลวก หลวงปู่ท่านก็จะเป่าและพรมน้ำมนต์ไปที่บริเวณเท้า ซึ่งเท้าจะบวมอยู่ไม่เกินสองวันก็หายบวม หรือบางคนที่ไม่สบายเป็นไข้หวัด เช่นเพื่อนรุ่นพี่ของผม หลวงปู่ท่านก็จะต้มยาให้กลับมากินที่บ้าน แกถูกคุณพ่อของแกจับบีบปากกรอกยาอยู่สองสามวันก็หายป่วยและกลับไปเรียนหนังสือได้ตามปกติ

    [​IMG]

    นอกจากการรักษาโรคแล้ว อำนาจมนต์ขลังของหลวงปู่คำก็ใช่ย่อยครับ โดยเฉพาะวิชาสักยันต์ ซึ่งเป็นที่รับรู้กันในวงกว้างเลยครับว่าผู้ใดที่ได้รับการสักกระหม่อมด้วยยันต์นะปัดตลอดจากหลวงปู่ ตัวยันต์ก็จะติดไปถึงกระดูกและเมื่อผู้ที่ได้รับการสักเวลาเสียชีวิตลงศพของเขามักจะเผาไม่ไหม้ ดังเช่นกรณีของนายมอญ เลี่ยมสัก ชาวบ้านหนองพรานพุก ตำบลหินเหล็กไฟ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่เผาไปนานกว่าสามชั่วโมง แต่ศพของนายมอญ ก็ยังคงอยู่ในสภาพเดิม

    สุดท้ายบรรดาญาติๆ ของนายมอญต้องขึ้นไปเล่าเรื่องนี้ให้หลวงปู่คำฟังบนกุฏิและขอความเมตตาจากหลวงปู่ให้ถอนอาถรรพ์ออกจากตัวของนายมอญ ซึ่งเมื่อหลวงปู่ได้ฟังจบ ท่านก็นั่งสมาธิภาวนาอยู่ครู่หนึ่ง จึงสามารถเผาศพนายมอญได้จนเสร็จสิ้น

    คำสอนอันประเสริฐที่ว่า ทุกสรรพสิ่ง ล้วนเกิดขึ้น ตั้งอยู่ เปลี่ยนแปลง แล้วดับไปทั้งสิ้น ทุกอย่างเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ทุกๆชีวิต จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ยังคงเป็นกฎธรรมชาติที่บอกถึงสัจจธรรมอันแท้จริงและทันสมัยอยู่เสมอ..
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    เหรียญอายุ 100 ปีหลวงปู่คำ
    ให้บูชา 120 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)
    IMG_20250611_212025.jpg IMG_20250611_212050.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มิถุนายน 2025 at 23:00
  16. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,253
    ค่าพลัง:
    +21,396
    FB_IMG_1749653750510.jpg
    หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม องค์นี้ แม้แต่พระอภิญญาอย่าง หลวงพ่อฤาษีลิงดำ แห่งวัดท่าซุง ยังยกย่องและยอมรับว่าหลวงพ่อจวนท่านนี้เก่งจริงๆๆพลังจิตกล้าแกร่งเหลือเกิน
    หลวงพ่อจวน เป็นพระองค์หนึ่ง ที่หลวงพ่อฤาษีฯ ให้ลูกศิษย์ไปกราบ และทำบุญด้วย เนื่องจากหลวงพ่อ ไปเจอหลวงพ่อจวนที่พระจุฬามณี โดยหลวงพ่อจวนไปทั้งกายเนื้อ
    มีอยู่เที่ยวหนึ่งหลวงพ่อท่านบอกว่า " เฮ้ย ! พวกแกลองสืบดูซิ มีหลวงตาองค์หนึ่งขาว ๆ ท้วม ๆ ล่ะนะ ชื่อ จวน อยู่สิงห์บุรี ลองดูสิว่ามีพระชื่อนี้อยู่สิงห์บุรีวัดไหน ช่วยบอกให้ด้วยหาไม่ยากหรอก ท่านดังด้วย หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม"
    ถาม : หลวงพ่อหาทำไมครับ
    ท่านบอกว่า : "วันก่อนขึ้นไปพระจุฬามณีเห็นหลวงตาจวนเดินตุ๊บ ๆ ตั๊บ ๆ อยู่ เขาเก่งว่ะ เขาไปทั้งตัวเลย ไม่ได้ใช้มโนมยิทธิถอดจิตไปนะนั่น เล่นไปทั้งตัวเลยล่ะ"
    ถาม : ยังอยู่ไหมครับ ?
    ตอบ : เรียบร้อยไปแล้ว ถ้าอยู่ไม่กล้าเล่ากลัวท่านเหยียบเอา (หัวเราะ) วัดหนองสุ่ม ขาว ๆ ยิ้มทั้งวันน่ะ น่ารักมาก....
    "สมัยที่หลวงพ่อจวนยังอยู่ จะไม่ให้ทำหนังสือวัตถุมงคล ท่านบอกว่า ของ ๆ ฉันถ้าจะดังเดี๋ยวดังเอง"
    หลวงพ่อจวนได้ละสังขารอย่างสงบ เมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๓๖ สิริอายุได้ ๗๙ ปี พรรษา ๕๕
    หมายเหตุ: "พระจุฬามณี"
    หมายถึง เจดีย์พระจุฬามณี"บนสรวงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
    สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีปราสาทเนรมิต กับมี พระเจดีย์จุฬามณี อันเป็นที่ประดิษฐานพระเมาลีของพระพุทธเจ้าเมื่อครั้งเสด็จออกมหาภิเนกษกรมณ์ และเมื่อพระพุทธองค์นิพพานแล้วก็ได้เป็นที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้วองค์ขวาด้วย
    ขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    พระสมเด็จหลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม รุ่นมหาเศรษฐี

    พระบูชา 120 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250611_215142.jpg IMG_20250611_215204.jpg IMG_20250611_215111.jpg
     
  17. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    13,253
    ค่าพลัง:
    +21,396
    FB_IMG_1749654534762.jpg FB_IMG_1749654537281.jpg FB_IMG_1749654539567.jpg FB_IMG_1749654541940.jpg FB_IMG_1749654544300.jpg FB_IMG_1749654546724.jpg FB_IMG_1749654549515.jpg FB_IMG_1749654551937.jpg FB_IMG_1749654554337.jpg FB_IMG_1749654556935.jpg
    วัตถุมงคลที่พระเกจิอาจารย์ปลุกเสกเดี่ยวถึง ๑๐ รูป
    พระสมเด็จชินบัญชร รุ่นประวัติศาสตร์ฯ ปี 2535 สมเด็จที่ระลึก 60 พรรษา สมเด็จพระบรมราชนีนาถจัดสร้างโดยมูลนิธิธรรมชีวินวัดอรุณราชวราราม มวลสามากมาย อาทิ ผงวัดระฆัง ผงวัดวัดบางขุนพรหม ผงวัดเกศไชโย ผงวัดสะตือ ผงวัดไก่จ้น ผงอิทธิเจ ผงปถมัง ผงมหาราช ผงตรีนิสิงเห ผงพุทธคุณ ผงธรรมคุณ ผงสังฆคุณ ผงมาตาปิตุปัจฐานมงคล เกษรดอกไม้จากพระอุโบสถ 108 วัด เช่น วัดพระแก้ว วัดโสธร วัดบ้านแหลม วัดพระธาตุพนม วัดพระธาตุดอยสุเทพ ดอกกาหลง ดอกกุหลาบแดง ดอกรักขาว ดอกกุหลาบขาว ดิน 7 ป่า ตะใคร่เสมา ฯลฯ
    เริ่มพิธีพุทธาภิเษกตลอด ปี 2534 ดังนี้
    ครั้งที่ 1 วันที่ 9 ม.ค.2534 หลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม ปลุกเสกเดี่ยว
    ครั้งที่ 2 วันที่ 9 ก.พ.2534 หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ จังหวัดนครปฐม ปลุกเสกเดี่ยว
    ครั้งที่ 3 วันที่ 9 ม.ค.2534 หลวงพ่อเกษม สำนักสุสานไตรลักษณ์ จังหวัดลำปาง ปลุกเสกเดี่ยว
    ครั้งที่ 4 วันที่ 9 เม.ย.2534 หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จังหวัดสิงห์บุรี ปลุกเสกเดี่ยว
    ครั้งที่ 5 วันที่ 9 พ.ค.2534 หลวงพ่อจรัล วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี ปลุกเสกเดี่ยว
    ครั้งที่ 6 วันที่ 9 มิ.ย.2534 หลวงปู่หล้าตาทิพย์ วัดป่าตึง จังหวัดเชียงใหม่ ปลุกเสกเดี่ยว
    ครั้งที่ 7 วันที่ 9 ก.ค.2534 หลวงปู่ทองมา วัดสว่างท่าสี จังหวัดร้อยเอ็ด ปลุกเสกเดี่ยว
    ครั้งที่ 8 วันที่ 9 ส.ค.2534 หลวงปู่บุดดา วัดกลางชูศรีเจริญสูข จังหวัดสิงห์บุรี ปลุกเสกเดี่ยว
    ครั้งที่ 9 วันที่ 9 ก.ย.2534 หลวงพ่ออุตมะ วัดวังวิเวการาม จังหวัดกาญจนบุรี ปลุกเสกเดี่ยว
    ครั้งที่ 10 วันที่ 9 ต.ค.2534 หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จังหวัดนครราชสีมา ปลุกเสกเดี่ยว
    ครั้งที่ 11 วันที่ 9 พ.ย.2534 มหาพุทธาภิเษกที่วัดอรุณราชวราราม โดยมีสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ พร้อมเกจิอาจารย์จากทั่วประเทศอีก 108 รูป
    ครั้งที่ 12 วันที่ 10 ธ.ค.2534 มหาพุทธาภิเษกที่มณฑณท้องสนามหลวงโดยมี สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร เสด็จเป็นองค์ประธานจุดเทียนชัยพร้อมด้วยเกจิอาจารย์ทั่วประเทศจำนวน 108 รูปเจริญสมาธิพุทธาภิเษก อาทิ
    1.) สมเด็จพระสังฆราช(สมเด็จวาส) วัดราชบพิตรฯ
    2.) สมเด็จพระญาณสังวร วัดบรวนิเวศวิหาร ( พระสังฆราชองค์ต่อมา
    3.) สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา
    4.) สมเด็จพระวันรัด วัดโสมนัสววิหาร
    5.) สมเด็จพระธีรญาณมุนี วัดปธุมคงคา
    6.) พระพรหมคุณาภรณ์ (สมเด็จพุฒาจารย์เกี่ยว)วัดสระเกศ (รักษาการองค์พระสังฆราช)
    7.) พระมหาวีระ ถาวะโร (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง)
    8.) พระอาจารย์ชื้น พุทธสาโร วัดญาณเสน
    9.) หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
    10.) พระครูสันติวรญาณ (หลวงปู่สิม) วัดถ้ำผาปล่อง
    11.) พระอุดมสังวรเถร (หลวงพ่ออุตตะมะ) วัดวังค์วิเวการาม เทพเจ้าแห่งสังขระบุรี
    12.) พระครูฐาปนกิจสุนทร (หลวงพ่อเปิ่น) วัดบางพระ
    13.) พระครูปริมานุรักษ์ (หลวงพ่อพูล) วัดไผ่ล้อม
    14.) หลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก
    15.) พระครูเกษมธรรมนันท์ (หลวงพ่อแช่ม) วัดดอนยายหอม เป็นต้น
    และสมเด็จพุทธโฆษาจารย์วัดสามพระยาเป็นประธานดับ เทียนชัย
    โดยทหาร,หมอ,พญาบาลทุกคนที่ได้รับมอบให้เป็นของป้องกันตัวที่ประเทศติมอร์ทุกๆ คนกลับมาด้วยความปลอดภัยไม่มีใครได้รับอันตราย
    อ้างอิง : มูลนิธิธรรมชีวิน
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    ให้บูชา 220 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20250611_220425.jpg IMG_20250611_220449.jpg
     
  18. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,128
    ค่าพลัง:
    +7,166
    เหรียญลป.คำ วัดหนองแก
    ขอจองครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...