พระแก้วมรกตนิราศภัย ลป ดู่,มงกุฎเพชร ลพ ฤาษีฯ,ปิดตาวันเพ็ญลปเกษมเขมโก,พ พาน ลป.เย็น..........

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย kiati_sak, 29 สิงหาคม 2022.

  1. kiati_sak

    kiati_sak เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    7,485
    ค่าพลัง:
    +13,257
    ปิดครับ
     
  2. kiati_sak

    kiati_sak เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    7,485
    ค่าพลัง:
    +13,257
    276. เหรียญของขวัญวันเกิด ลพ.เล็ก วัดท่าขนุน กาญจนบุรี
    ด้านหน้า #พระพุทธเจ้าปางลีลาประทานพร (#สมเด็จพระพุทธกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้า ปางลีลาประทานพร) โดยความหมาย ก็คือ #ความเจริญก้าวหน้าและความสำเร็จในทุกด้าน
    ด้านหลัง #พระพุทธรูปปางห้ามสมุทรนั้น ส่วนใหญ่ที่เขาสร้าง เขาถือเคล็ดว่า สิ่งที่ไม่ดีไม่งามต่าง ๆ จะโดนหยุดเอาไว้หมด สิ่งที่ไม่ดีจะมาไม่ถึงตัวเรา
    เข้าพิธีหลายพิธี ๔พิธี ดั่งนี้
    พุทธาภิเษกครั้งที่ ๑ .............วันเสาร์ที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เสาร์ห้า)
    พุทธาภิเษกครั้งที่ ๒ ..............วันเสาร์ที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๘ (เสาร์ห้า)
    พุทธาภิเษกครั้งที่ ๓ วันที่ ๒๕ - ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๘ (เข้ากรรมฐาน ๓ วัน)
    พุทธาภิเษกครั้งที่ ๔ ............วันเสาร์ที่ ๕ มีนาคม ๒๕๕๙ (พิธีฝ่าวิกฤต บรรจุถุงซิปพลาสติก ต้องมีตัวเลขไทย 5359 เท่านั้น)
    พระพุทธลีลาประทานพร โดยความหมาย ก็คือ ความเจริญก้าวหน้าและความสำเร็จในทุกด้าน
    ลีลา ก็คือ การเดินไปข้างหน้า ความก้าวหน้า
    การประทานพร ก็คือ การให้ในสิ่งที่เราต้องการ
    เข้าพิธี สวดพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ ณ บ้านวิริยบารมี ปี2559 และ อีกทั้งยังเข้าพิธี
    พระอาจารย์กล่าวว่า
    " เหรียญของขวัญปีใหม่นั่น เข้าพิธีมา ๓ งาน แล้ว
    เข้าเสาร์ ๕ มา ๒ ครั้ง
    แล้วก็ เข้ากรรมฐาน ๓ วัน มาอีกครั้งหนึ่ง
    ต้องบอกว่างานนี้เก็บความลับดีมาก โผล่ออกมาแล้วถึงจะรู้กัน
    แม้แต่อาตมาเองก็ยังไม่ได้เห็นว่าหน้าตาเหรียญเป็นอย่างไร
    เปิดกล่องเห็นพร้อมกันวันนั้นแหละ
    รู้ไหมทำไมต้องเก็บความลับขนาดนั้น ?
    เพราะ ทันทีทมีคนสร้างเลียนแบบทันทีทันใดเลย
    พอสร้างเลียนแบบแล้วก็เอามา เข้าพิธี ของวัดท่าขนุน
    ขนาดมีดหมอเพชราวุธยังทำเลียนแบบกันให้ชุ่ยไปหมด"
    พระอาจารย์เล่าว่า สมเด็จพระพุทธกัสสป ท่านเสด็จมาทีหลัง มาบอกว่า
    "ขอบใจมากนะ ลูก..ที่ตั้งใจจะทำรูปของพ่อขึ้นมาให้เป็นที่เคารพบูชา
    แก่คนทั้งหลายเขา นับว่าสิ่งที่เจ้าตั้งใจมาตั้งนานแล้ว
    จะประสบความสำเร็จตามที่หวัง "
    แล้วพระองค์ท่านทรงอธิบายว่า พระพุทธรูปปางลีลาประทานพร
    โดยความหมาย ก็คือ ความเจริญก้าวหน้าและความสำเร็จในทุกด้าน
    ถ้ามีโอกาสจะหล่อเป็นพระบรมรูปยืนองค์เล็กของพระองค์ท่าน
    เผื่อไว้พวกเราได้มีโอกาสบูชาไว้ประจำบ้านด้วย
    อาตมาเพิ่งจะเข้าใจเหมือนกันว่า
    ลีลา ก็คือ การเดินไปข้างหน้า ความก้าวหน้า
    การประทานพร ก็คือ การให้ในสิ่งที่เราต้องการ "
    " พระองค์ท่านอธิบายว่า หมายถึง ความก้าวหน้าและความสำเร็จทุกอย่าง
    พระองค์ ท่าน เป็นพ่อที่อาตมาอาศัยพึ่งบารมีมาตลอด
    หลวงพ่อฤๅษี ท่านบอกว่า
    พระพุทธเจ้าสองพระองค์
    คือ พระพุทธเจ้าพระนามว่าพระพุทธทีปังกร
    และ พระพุทธเจ้าพระนามว่าพระพุทธกัสสป
    เป็น พระพุทธเจ้า ที่เลิศด้วย ลาภ กว่า ทุกพระองค์
    เพราะ ทั้งสองพระองค์ เริ่มการบำเพ็ญบารมี เพื่อพระโพธิญาณ มาจาก ทานบารมี
    1f4a5.png 1f4a5.png 1f4a5.png 1f4a5.png 1f4a5.png 1f4a5.png 1f4a5.png 1f4a5.png 1f4a5.png 1f4a5.png 1f4a5.png 1f4a5.png 1f4a5.png
    พระอาจารย์เล่าให้ฟังถึงที่มาของการสร้างพระบรมรูปของสมเด็จพระพุทธกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้าปางลีลาประทานพร ว่า "อาตมาจะสร้างพระพุทธรูปปางลีลาประทานพร เกิดขึ้นมาจากการฝึกมโนมยิทธิครั้งแรก เมื่อขึ้นไปถึงบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์แล้ว ครูฝึกท่านแนะนำให้เชิญพ่อแม่ในอดีตทั้งหมดมารวมกัน เพื่อที่เราจะได้กราบขอบพระคุณท่านที่เคยอุ้มชูเลี้ยงดูเรามาในแต่ละชาติแต่ละภพ
    ปรากฏว่าพ่อแม่มามากจนนับไม่ถ้วน ครูฝึกจึงแนะนำว่า ให้อธิษฐานขอให้พ่อแม่ที่มีวาสนาบารมีมากที่สุด ให้ออกมายืนข้างหน้า อาตมาก็เห็นพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งเสด็จออกมาในลักษณะพุทธลีลา งดงามสุด ๆ งามประทับใจ ภาพนั้นติดตามาจนทุกวันนี้
    กราบทูลถามพระองค์ท่านว่ามีพระนามใด ? ทรงตรัสว่า "จำพ่อไม่ได้แล้วหรือ ?" กราบทูลว่า "จำไม่ได้จริง ๆ พระเจ้าข้า" พระองค์จึงตรัสว่า "สมเด็จพ่อพุทธกัสสปของเธออย่างไรเล่า ต่อไปถ้าจะมาหาเธอ พ่อจะมาในลักษณะอย่างนี้ ให้จำไว้" อาตมาก็จำว่าพระองค์จะมาในลักษณะพระพุทธเจ้าปางลีลาประทานพร ภาพนี้ติดตามาโดยตลอด
    อ้างอิงจากเก็บตกบ้านอนุสาวรีย์ ต้นเดือนมกราคม ๒๕๕๔
    ถาม : ตามที่หลวงพ่อพระราชพรหมยานกล่าวถึงพระที่มีลาภมาก ได้แก่ สมเด็จพระพุทธกัสสป (ปางพุทธลีลา) และสมเด็จพระพุทธทีปังกร (พระพุทธโสธร) มีลาภมหาศาลมาก และหลวงพ่อเล็กเคยกล่าวถึงพระพุทธรูปหยกวัดท่าขนุนว่า เป็นรูปลักษณะของสมเด็จพระพุทธกัสสป เป็นปางพุทธลีลา สมเด็จพระพุทธกัสสปและสมเด็จพระพุทธทีปังกร ทั้งสองพระองค์บารมีหนักในด้านลาภมาก
    รบกวนถามว่า ๑. สมเด็จพระกกุสันโธ มีรูปลักษณะเป็นพระปางอะไร ? และมีบารมีหนักในด้านใดครับ ? ๒. สมเด็จพระโกนาคมโน มีรูปลักษณะเป็นพระปางอะไร ? และมีบารมีหนักในด้านใดครับ ?
    ตอบ : ขอแก้ข้อเข้าใจผิดก่อน เรื่องนี้ยืนยันว่าหลวงพ่อวัดท่าซุงไม่เคยพูดไว้ ท่านพูดไว้แค่ครึ่งเดียว ก็คือ พระพุทธกัสสปกับพระพุทธทีปังกรเป็นพระพุทธเจ้าที่มากด้วยลาภ เพราะว่าสร้างบารมีเริ่มต้นด้วยการให้ทาน ส่วนอาตมาเองพูดว่า ได้รับพรจากสมเด็จพระพุทธกัสสปว่า ถ้าพระองค์ท่านมา จะมาในลักษณะของพระพุทธลีลาประทานพร ส่วนพระพุทธทีปังกรให้พรว่า ถ้าพระองค์ท่านมา จะมาในลักษณะพระพุทธรูปสมัยเชียงแสน มีสภาพค่อนข้างอ้วนท้วนสมบูรณ์ นี่เป็นเรื่องที่พระองค์ให้เฉพาะตัว ดันเสือกเอาไปยำรวมกัน...! แล้วเสือกยำผิดด้วย ส่วนที่เหลือถ้าอยากรู้ให้ไปถามพระองค์ท่านเอาเอง
    อ้างอิงจากเก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนสิงหาคม ๒๕๕๘
    1f4a5.png 1f4a5.png 1f4a5.png 1f4a5.png 1f4a5.png 1f4a5.png 1f4a5.png 1f4a5.png 1f4a5.png 1f4a5.png 1f4a5.png 1f4a5.png
    ทางวัดไม่ได้ออกวัตถุมงคลในพิธีนี้ เนื่องจากว่าออกไปเยอะจนญาติโยมร้องกันเอ็ดตะโรแล้ว จึงไม่ได้จัดพุทธาภิเษกอย่างเป็นทางการ แต่ขอให้ทุกท่านทราบว่า ตั้งแต่สมัยหลวงปู่ปาน วัดบางนมโคก็ดี หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุงก็ดี การเป่ายันต์เกราะเพชรถือว่าเป็นการพุทธาภิเษกวัตถุมงคลไปในตัวอยู่แล้ว ดังนั้น..ถ้ามีท่านใดนำวัตถุมงคลมา ก็ให้ถือตามแบบอย่างของหลวงปู่หลวงพ่อ ก็คือถึงเวลาก็นำเอาห่อผ้าขาวซึ่งบรรจุวัตถุมงคลของเราวางบนตัก อาราธนาขอบารมีพระที่สงเคราะห์ในการเป่ายันต์เกราะเพชร ให้พุทธาภิเษกวัตถุมงคลของเราไปด้วย
    ถึงแม้ว่าทางวัดไม่ได้ออกวัตถุมงคลในรุ่นนี้ แต่ทางด้านหลวงพ่อนิล จาก อาศรมศรีชัยรัตนโคตร จังหวัดสกลนคร ท่านทำวัตถุมงคลรูปหลวงปู่ใหญ่โลกอุดรนำมาเข้าพิธี และ ชมรมโมทนาบุญเว็บพลังจิต โดย คุณชยาคมน์ ธรรมปรีชา ขอนำวัตถุมงคลมาเข้าพิธีด้วย แล้วของทางวัดอาตมาก็มีเหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ ซึ่งจะเอาไว้แจกในงานฉลองพระอุปัชฌาย์ปีหน้า ได้เข้าพิธีเสาร์ห้ามา ๑ ครั้งแล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๒ และจะมีครั้งที่ ๓ ครั้งหน้า คาดว่าคงจะพุทธาภิเษกสัก ๓ เสาร์ห้าแล้วจึงจะปล่อยให้บูชากัน
    เมื่อถึงเวลาปีหน้า ถ้าใครมางานฉลองพระอุปัชฌาย์ของอาตมา ก็จะมีวัตถุมงคลคือเหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ ซึ่งถ้าไม่บอกก็ไม่มีใครรู้หรอกว่าพุทธาภิเษกไปรอบหนึ่งแล้ว เพราะแอบทำเงียบ ๆ เนื่องจากระยะหลังนี้มีผู้ที่หากินกับวัดท่าขนุนโดยตรง ออกวัตถุมงคลเลียนแบบกันมาก สร้างความสับสนให้แก่ญาติโยมภายในเว็บ อาตมาจึงต้องแอบทำเงียบ ๆ ไม่มีใครรู้ว่ารูปแบบหน้าตาเป็นอย่างไร จนกว่าวันที่วัตถุมงคลออกจำหน่าย เพราะจนป่านนี้อาตมาก็ยังไม่ได้เปิดลังดู ไม่ต้องถามอาตมาด้วยว่าวัตถุมงคลหน้าตาเป็นอย่างไร ขนาดลังยังไม่ได้เปิด คาดว่าเสกสัก ๓ เสาร์ห้า ลังน่าจะขลังกว่าวัตถุมงคลอื่น ๆ ถึงเวลาเราก็เอาลังไปเลี่ยมห้อยคอได้...!
    อ้างอิงจากงานเก็บตกบวงสรวงไหว้ครู - เป่ายันตเกราะเพชร วันเสาร์ที่ ๑๗ ตุลาคม ๒๕๕๘
    ฉะนั้น...รุ่นนี้ก็ถือว่าเป็นวัตถุมงคลรุ่นฝ่าวิกฤติก็แล้วกัน คนอื่นจะเป็นอย่างไรก็ช่าง เพราะว่าพวกเราพกอาวุธมาเต็มตัวขนาดนี้ต้องไปได้ ไปได้ยังไม่พอนะ แก้วอินทนิลของท่านเองนี่เด่นเรื่องมหาลาภ มหาปราบ เรื่องนี้ท่านจะถนัดมาก ก็แปลว่าไปรอดแล้วยังต้องรวยอีกด้วย"
    "ถ้าถามว่าวัตถุมงคลที่เข้าพิธีวันนี้มีอะไร ? ก็มีขอสับช้างของวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ที่เป็นต้นเรื่องเลย มีขนาดใหญ่กับขนาดเล็ก ตุ๊พ่อท่านบอกว่าเหลือไว้ให้อย่างละ ๑๐๐ นอกนั้นเขาจองไว้แล้ว ขนาดเล็ก ๙๐๐ บาท ขนาดใหญ่ ๑,๒๐๐ บาท ขึ้นราคาหน่อยได้ไหม ? ...(หัวเราะ)... หลังจากพุทธาภิเษกเสร็จ กราบเรียนตุ๊พ่อท่านว่าเอาจำหน่ายตรงนี้เลย โยมที่ต้องการจะได้ไม่ต้องไปจองในเว็บ ไม่ต้องไปถึงวัด มีอย่างละร้อยด้ามเท่านั้น ห้ามจองคนเดียว ๙๙ ด้าม..!
    ส่วนของวัดท่าขนุนมีพระขุนแผนเกราะเพชร ที่จะออกในงาน ๑๐๐ ปีหลวงพ่อฤๅษี ขุนแผนรุ่นนี้ทำด้วยผงยานัตถ์ุของหลวงพ่อฤๅษีที่อาตมาเก็บสะสมไว้ ก็จะมี พิมพ์ใหญ่ ฝังตะกรุดหัวใจขุนแผน เนื้อทองคำ ๓,๐๐๐ องค์ เนื้อนาก ๓,๐๐๐ องค์ เนื้อเงิน ๓,๐๐๐ องค์ กำลังคิดว่าจะขูดรีดโยมเท่าไรดี ? ...(หัวเราะ)... ส่วนพิมพ์เล็กไม่มีตะกรุด เพราะว่าขนาดตะกรุดถ้าฝังลงไปแปลว่าล้นองค์พระ พิมพ์เล็กมี ๓๐,๐๐๐ องค์ เป็นเนื้อผงยานัตถุ์อย่างเดียว
    แล้วก็มีวัตถุมงคลเก่าของวัด ก็มีเหรียญของขวัญปีใหม่ เนื้อตะกั่ว ๔,๐๐๐ เหรียญ ๔,๐๐๐ เหรียญนี่ตัวเล็กเอาไปออกในกระทู้งานอุปสมบทหมู่ ๑๐๐ ปีหลวงพ่อฤๅษีไปแล้ว ๑,๐๐๐ เหรียญ ใครจองไว้ถือว่าเฮงมากเลยเพราะตอนนั้นลดราคาให้ครึ่งหนึ่ง พอเอาเข้าพิธีแล้วคงต้องเพิ่มราคาขึ้นครึ่งหนึ่ง..!
    แล้วก็มีเหรียญฉลองพระอุปัชฌาย์ เนื้อเงิน ๓,๐๐๐ เหรียญ ที่จองกันไป ๑,๐๐๐ เหรียญแล้ว เนื้อทองคำ ๓๐๐ เหรียญ จองกันไป ๑๐๐ กว่าเหรียญแล้ว ใครไม่ได้จองไม่ต้องเสียใจเพราะอาตมาตั้งใจขึ้นราคาอยู่แล้ว..!
    แล้วก็มีผงงาช้าง ๖๐ กิโลกรัม จะเอาไว้สร้างพระ ผงงาช้างได้มาจากงาน OTOP ที่จังหวัดสุรินทร์ ปกติเขาขายกันแพงมาก แต่คณะของคุณหญิง (ณญาดา) ไม่รู้ไปตีซี้อีท่าไหน ? ไปโกยมาหมดเลย บอกว่าเอามาให้หลวงพ่อไว้สร้างพระ ซึ่งอาตมายังไม่มีอารมณ์จะสร้าง ยังนึกลูกเล่นไม่ออกว่าจะสร้างเป็นอะไรดี"
    อ้างอิงจาก...เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนมีนาคม ๒๕๕๙

    ให้บูชา 1500 รส
    84585.jpg
    84586.jpg

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 84652_0.jpg
      84652_0.jpg
      ขนาดไฟล์:
      37.6 KB
      เปิดดู:
      26
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มิถุนายน 2025 at 08:03
  3. kiati_sak

    kiati_sak เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    7,485
    ค่าพลัง:
    +13,257
    277. พระแหวกม่าน หลวงพ่อกวย ชุตินธโร รุ่นย้อนยุค ปี39 หลังปั๊มยันต์ครู หายาก
    ของดีอีกหนึ่งรุ่น ที่หลวงพ่อกวยบอกให้ศิษย์เร่งหามาบูชา ไม่ค่อยพบเห็นทั่วไป
    *** ***
    พระผงรุ่นนี้ตำผง ผสมเนื้อและกดพิมพ์กันเองที่วัด จัดพิธีปลุกเสกใหญ่มาก มีพระเกจิเก่งๆยุคนั้นมาร่วมในพิธีกันหลายท่าน พระผงจะใช้เนื้อหามวลสารจากผงเก่าของหลวงพ่อกวยเป็นหลัก โดยมีสารวัตรละออง สุขนิลและครูสุทน เป็นผู้ดำเนินการให้จัดสร้างขึ้นที่วัดโฆสิตารามเมื่อปี2539 มีเสี่ยตี๋(คุณกมล)เป็นผู้จัดหาน้ำมันตังอิ๊วแบบใสหลายแกลลอนมาทำเป็นตัวประสานเนื้อ จำนวนการสร้างที่รวมทุกเนื้อ-ทุกพิมพ์รวมทั้งเหรียญ-รูปถ่าย มีหลายหมื่นชิ้น
    *** ***
    1. เนื้อโขลก หรือที่เรียกว่าเนื้อก้นครก เนื้อจะหยาบและมีสีเข้ม มองเห็นมวลสารชัดเจน เป็นเนื้อพระที่ตำกันเองที่วัดโดยใช้ครกหินใบใหญ่ เน้นใส่มวลสารมากเป็นพิเศษ มีแร่อุกกาบาต ผงตะไบทอง และใส่เกศาของหลวงพ่อลงไปด้วย เนื้อแบบนี้จะนิยมกันมาแต่อดีต แต่พระมีจำนวนน้อย เพราะเมื่อกดพระออกมาได้ไม่มากนักเพียงหลักพันองค์ กรรมการวัดก็เห็นว่าเปลืองผงที่เตรียมไว้ทำพระ ก็ให้ใส่ปูนผงมากขึ้นในครกที่ตำผสมเนื้อกับน้ำมันตังอิ๊ว จึงกลายเป็นเนื้อขาวแก่ปูนในครกต่อๆมา กล่องที่ใส่พระเนื้อหยาบนี้ สั่งมาเป็นชุดแรกๆจากโรงงาน ส.พลาสติก จะเป็นกำมะหยี่บุเต็มกล่อง รองด้านในด้วยกระดาษแข็งสีขาว การวางตัวหนังสือหน้ากล่องก็จะแตกต่างกับกล่องใส่ของพระเนื้อละเอียดสีขาว พระผงเนื้อหยาบแบบนี้หมดจากตู้วัตถุมงคลของวัดก่อนเนื้อขาวละเอียด ด้วยมวลสารที่เข้มข้นและเกศาของหลวงพ่อ
    2. เนื้อขาว หรือที่เรียกว่าเนื้อละเอียด เป็นพระเนื้อแก่ปูนมีสีขาวนวล ไม่ค่อยเห็นมวลสารในเนื้อพระมากนัก เป็นเนื้อที่ตำผสมโดยใช้ครกไม้ใบใหญ่ ใช้ปูนเป็นส่วนผสมมากกว่าเนื้อหยาบที่ตำจากครกหิน เมื่อแห้งแล้วเนื้อพระมีการหดตัวมากกว่าแบบเนื้อหยาบเล็กน้อย พระเนื้อขาวละเอียดจะพบได้มากกว่าเนื้อหยาบ กล่องพลาสติกชุดหลังๆที่สั่งมาบรรจุพระ ก็จะแตกต่างกับกล่องที่สั่งมาชุดแรก ทั้งการวางตัวหนังสือหน้ากล่องและกำมะหยี่ที่บุไว้ไม่เต็มกล่อง แต่ตัดช่องตรงกลางขนาดเท่าองค์พระและรองด้านหลังด้วยแผ่นยางบางๆ พระเนื้อขาวละเอียดบางองค์อาจจะมีรอยหัวแหวนประทับไว้ด้านหลัง โดยพระเนื้อขาวละเอียดยังมีให้บูชาในตู้วัตถุมงคลของวัดโฆสิตารามอีกหลายปี และหมดลงในปี2552
    พิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคล ณ วัดโฆสิตาราม (บ้านแค) ตำบลบางขุด อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท วันพฤหัสบดี ที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๓๙
    เวลา ๐๓.๐๔ น. เริ่มพิธีพุทธาภิเษก หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ เจิมเทียนชัยในพิธี หลวงปู่ทิม วัดพระขาว จุดเทียนชัย หลวงพ่อพร้า วัดโคกดอกไม้ ดับเทียนชัย เกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณ ดังนี้
    ๑. หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
    ๒. หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ นครปฐม
    ๓. หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง อยุธยา
    ๔. หลวงพ่อพิมพา วัดหนองตางู นครสวรรค์
    ๕. หลวงพ่อดี วัดพระรูป สุพรรณบุรี
    ๖. หลวงพ่อคร่ำ วัดวังหว้า ระยอง
    ๗. หลวงพ่อสวัสดิ์ วัดธรรมิกาวาส
    ๘. หลวงพ่อสำราญ วัดปากคลองมะขามเฒ่า
    ๙. หลวงพ่ออุตตมะ กาญจนบุรี
    ๑๐. พระครูทวีศักดิ์ วัดช่องลม
    ๑๑. หลวงพ่อเจริญ วัดธัญญวารี
    ๑๒. หลวงพ่อพร้า วัดโคกดอกไม้
    ๑๓. หลวงพ่อพยุง วัดบรรลัง
    ๑๔. หลวงพ่อบุญตา วัดคลองเกตุ
    ๑๕. หลวงปู่ปรง วัดธรรมเจดีย์
    ๑๖. หลวงพ่อหลิว วัดไร่แตงทอง
    ๑๗. หลวงพ่อลำไย วัดลาดหญ้า
    ๑๘. หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา
    ๑๙. หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย
    ๒๐. หลวงพ่อเกษม วัดม่วง
    ประสบการณ์้เรื่องเล่า เรื่องที่๑
    ผมทำงานที่ศูนย์การค้าสัญชาติฝรั่งแห่งหนึ่ง หลายคนอาจไม่ทราบกันว่าทุกห้างนั้น เล่นไสยศาสตร์มนต์ดำกันทุกห้างกันอยู่แล้ว แม้แต่ห้างฝรั่งก็ตาม เพราะต้องการเรียกลูกค้าหรือแย่งลูกค้ากันก็ตามที หลายเดือนมานี้ผมรู้สึกไม่ค่อยสบาย มาตลอด อันที่จริงผมก็ทราบอยู่แล้วว่าผมโดน คุณไสย มนต์ดำ ลมเพลมพัด แต่ผมก็ไม่รู้ว่าจะแก้ไขอย่างไรดี วันที่16/8/2549 ผมก็บังเอิญมาพบเวปบอร์ดนี้ วันที่19/8/2549 ก็เลยไปกราบพระศพหลวงพ่อกวย ก็เลยบูชาพระปรกโพธิ์ปี2539มา ช่วงเดินทางกลับกรุงเทพฯ ก็ปวดหัวตลอด เมื่อคืนนี้ก็เลยไหว้พระสวดมนต์ แล้วก็ชุมนุมเทวดา แล้วใช้พระปรกโพธิ์ รุ่น2539 ทำน้ำมนต์กินและอาบ หลังจากนั้นไม่ถึงครึ่งชั่วโมง ผมก็รู้สึกว่าหายปวดหัวแบบปลิดทิ้ง รู้สึกโล่งสบายมากๆ ครับ นี่แหละครับ พุทธานุภาพ ธรรมมานุภาพ สังฆานุภาพของหลวงพ่อกวย ที่ผมได้รับประสบการณ์ ลืมบอกไป เมื่อตอนบูชาพระปรกโพธิ์ของท่านที่วัด แล้วนำไปวางไว้ที่รูปปั้นที่มือของหลวงพ่อ ผมสวดชุมนุมเทวดา ขอพรให้หลวงพ่อเสกพระของท่านให้มีอานุภาพดุจหลวงพ่อท่านทำเองกับมือท่าน หลวงพ่อกวยท่านมาสงเคราะห์ทำให้จริงๆครับ ทุกท่านโปรดวางใจว่า พระรุ่นปี 2539 ของหลวงพ่อกวยนั้นมีอานุภาพเหมือนท่านทำตอนมีชีวิตอยู่ทุกประการ
    ประสบการณ์เรื่องที่๒
    พระชุดนี้ พระเเละฆราวาส ตำผงกันเอง กดพิมพ์ที่วัด ใส่มวลสารเก่าๆของหลวงพ่อลงไปด้วย จัดพิธีปลุกเสกใหญ่มาก เกจิเก่งๆยุคนั้นมากันหลายท่าน
    ศิษย์หลวงพ่อ ตาสอน สมัยที่มาเผ้าศาลาหลวงพ่อ วันนึงไม่สบายนอนหลับ หลวงพ่อไปบอกที่หูว่า (ของที่พวกมึงทำ ของดีๆทั้งนั้น ทำไม่เอาไปใช้กัน) ตาสอนเลยไปหาพระรุ่นนี่มาคล้องคอเลยครับ
    พระรุ่นนี้ มีคนเช่าไปเเล้ววันนึงกลับมาเช่าอีกเป็นร้อยองค์ ทางวัดถาม เเกบอกว่า วันนึงคล้องพระรุ่นนี้ที่เช่าไปจากวัด ทำปืนลั่นใส่ตัวเอง มีเเต่เสียงเเชะ ก็เลยศรัทธาพระรุ่นนี้มากครับ
    วันที่ทำพิธีปลุกเสกพระรุ่นนี้ที่โบสถ์ของวัดบ้านเเค หลวงพ่อพร้าเล่าให้ฟังว่า ขณะปลุกเสก ท่านได้อธิษฐานจิต เชิญหลวงพ่อกวยมาร่วมปลุกเสกด้วย ท่านมองไปที่สายสิญ ซึ่งโยงมาจากโลงเเก้วของหลวงพ่อที่ศาลาหลังเก่า ท่านเห็นเเสงสีเขียววิ่งมาตามสายสิญ เข้าสู่กองวัตถุมงคลครับ
    สรุปสั้น ของดีๆจริงๆครับ ของหลวงพ่อรุ่นไหน เเบบไหน คล้องเดี่ยวได้สบายใจ

    ให้บูชา 2500 รส
    84717.jpg
    84718.jpg
     
  4. kiati_sak

    kiati_sak เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    7,485
    ค่าพลัง:
    +13,257
    278. เหรียญกรอบกระจก หลวงปู่ครูบาเจ้าเกษม เขมโม สวยเดิม
    ให้บูชา 1050 รส
    84812.jpg
    84813.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 84814.jpg
      84814.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.2 KB
      เปิดดู:
      26
  5. kiati_sak

    kiati_sak เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    7,485
    ค่าพลัง:
    +13,257
    279. เหรียญเข็มกลัดมงกุฎเพชร หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง เลี่ยมทอง สวยเดิม
    --- เข็มกลัดมงกุฏเพชร หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง เป็นเหรียญที่ระลึกสมณศักดิ์ มีรูปลงยาหลวงพ่อในวงกลม บนรูปมีมงกุฎครอบเพชร และประภามณฑลรอบล่างเขียนชื่อสมณศักดิ์ มีด้วยกัน 2แบบ แต่ละแบบก็สร้างหลายครั้ง
    1) แบบตัวหนังสือ “พระสุธรรมยานเถระ” มี 3แบบ คือ ตัวหนังสือเล็ก ตัวหนังสือกลาง และตัวหนังสือขนาดใหญ่ (มีทั้งที่ทำตัวหนังสือบางและตัวหนังสือหนา ขนาดจะไม่แน่นอน แล้วแต่การสร้างในครั้งนั้นๆ) สร้างครั้งแรกเมื่อเดือน มีนาคม 2528
    2) แบบตัวหนังสือ “พระราชพรหมยาน” (มีทั้งที่ทำตัวหนังสือบางและตัวหนังสือหนา ขนาดจะไม่แน่นอน แล้วแต่การสร้างในครั้งนั้นๆ) สร้างครั้งแรกเมื่อเดือน มีนาคม 2533
    ด้านหลังเป็นยันต์เกราะเพชร ซึ่งมีหลายแบบหลายขนาด ทั้งที่เป็นแบบยันต์เกราะเพชรใหญ่ ยันต์เกราะเพชรขนาดกลาง และยันต์เกราะเพชรขนาดเล็ก (ขนาดยันต์จะไม่เท่ากัน)
    หลวงพ่อท่านเล่าถึงอานุภาพของเหรียญมงกุฎเพชรไว้เมื่อครั้งปลุกเสกเมื่อเดือนกันยายน 2532 ว่าดังนี้
    “พอเต็มแล้ว ฉันก็ขึ้นไปกราบพระ พระใหญ่คือองค์ปฐม ท่านเป็นประธานอยู่ ถามว่าของทั้งหมด ทั้งพระบูชา และก็มงกุฎเพชรนี่ มีประโยชน์อย่างไรครับ มีอะไรบ้าง ท่านก็บอกเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ด้วยอำนาจพุทธานุภาพ ธัมมานุภาพ เทวานุภาพ พรหมานุภาพ ทั้งหมดต้องมีความไม่ประมาทอาราธนาไว้เสมอ
    อันดับแรกที่ฉันจะบอกเธอนะ คือ กันโรคระบาดทุกอย่าง ขึ้นชื่อว่าโรดระบาดทุกอย่างนี่กันหมด พอท่านบอกแบบนี้ เจ้าของโรคระบาดก็ปรากฏตัวเป็นกลุ่มใหญ่ โรคระบาดขั้นถึงตายอย่างอหิวาต์ชุดแดง คนนะ โรคระบาดสัตว์นี่ชุดเขียว บอกผมครับเป็นเจ้าหน้าที่โรคระบาดทั้งสองฝ่าย
    มาแล้วก็ถามว่า ถ้าเขามีของนี้บูชาอยู่ หรือจะติดตัวอยู่ก็ตาม พระบูชาก็ตาม จะมีผลไหม เขาก็บอกว่า อย่าลืมนึกถึงพระพุทธเจ้านะ ผมเคารพพระพุทธเจ้า ถ้ามีผลจะจัดหลีก ก็เลยถามท่านบอกว่า โรคระบาดอันดับแรกที่พระองค์จะทรงสงเคราะห์คือโรคอะไรครับ ท่านบอก “โรคเอดส์”
    ถามท่านว่า ถ้าเชื้อมันมาจะเป็นอย่างไร ท่านบอกถ้าเชื้อเข้ามามันจะด้าน พอดีท้าวเวสสุวัณท่านอธิบายต่อว่า คำว่า “ด้าน” คือตาย เชื้อมันตาย แต่ว่าทั้งนี้ต้องอาราธนาเช้า อาราธนาเย็น ก็บูชาเช้าบูชาเย็น ต้องบอกไว้เรื่อยๆ โรคระบาดทั้งหมด
    ประการที่สอง ท่านบอกว่าถ้าต้องการความปลอดภัย ท้าวเวสสุวัณอธิบายว่า อำนาจพุทธานุภาพ “พุทโธ อัปปมาโณ” คุณของพระพุทธเจ้าหาประมาณมิได้ “ธัมโม อัปปมาโณ” คุณของพระธรรมหาประมาณมิได้ “สังโฆ อัปปมาโณ” คุณพระสงฆ์หาประมาณมิได้
    ถ้าหากว่าไม่ต้องการให้ของหาย ขอให้อธิฐานบอกว่า “ขอผู้ร้ายจงอย่าเห็นบ้าน จงอย่าเห็นประตู หรือศัตรูอย่าเห็นตัว เฉพาะศัตรู หมายความว่าเขายังไม่คิดจะทำร้าย เขาก็อาจจะเห็น ถ้าคิดจะทำร้ายเขาจะไม่เห็น ถ้าคนนั้นยังเป็นขโมยยังไม่ลักบ้านเรา อาจจะเห็น ถ้าจะลักบ้านเราอาจจะไม่เห็น ให้อธิฐานตามนั้นนะ และต่อไปเรื่องลาภสักการะอะไรต่างๆธรรมดา

    ให้บูชา (สอบถามครับ)
    84995.jpg
    84996.jpg

     
  6. kiati_sak

    kiati_sak เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    7,485
    ค่าพลัง:
    +13,257
    280. เหรียญหลวงปู่ครูบาขันแก้ว วัดสันพระเจ้าแดง ลำพูน รุ่นแรก เลี่ยมพร้อมใช้
    เหรียญรุ่นแรก ครูบาขันแก้ว วัดสันพระเจ้าแดง จ.ลำพูน ปี 2520
    ประวัติการสร้างเหรียญรุ่นแรก ครูบาขันแก้ว วัดสันพระเจ้าแดง ปี 2520
    เมื่อครั้งที่คุณหมอสมสุข คงอุไร ได้เห็นปาฏิหารย์ในการปลุกเสก รูปหล่อครูบาชุ่ม โพธิโก คุณหมอสมสุข จึงไปกราบนมัสการ ครูบาขัแก้ว ที่วัดสันพระเจ้าแดง และคุณหมอก็ได้เห็นสภาพวัด คุณหมอจึงรู้สึกหดหู่ สงสารวัดสันพระเจ้าแดงว่า พระสงฆ์ระดับพระอริยเจ้าต้องอยู่ในวัดที่สภาพทรุดโทรมขนาดนี้ จีงคิดว่า ทำอย่างไรหนอ ที่จะทำให้วัดสันพระเจ้าแดง มีสภาพที่ดีขึ้น และหาปัจจัยมาบำรุงวัด ท่านคิดสร้างเหรียญรุ่นแรกขึ้น เพื่อที่มีคนมาทำบุญแล้วเอาเงินเข้าวัด
    คุณหมอสมสุข ก็ไปปรึกษากับครูบาขันแก้ว จะทำเหรียญให้และขอความเห็นว่า ข้างหน้าเป็นรูปหน้าครูบาขันแก้ว ข้างหลังจะเป็นยันต์อะไรดี แต่ในใจคุณหมอคือ ยีนต์ ๕ จู่ ๆ ครูบาขันแก้วว่า เอาเป็น ยันต์ ๑๐ เหมือนกับ อาจารย์คนแรกของหมอก็แล้วกัน (หลวงพ่อพรหม ถาวโร วัดช่องแค) สร้างความงุนงงให้กับคุณหมอสมสุขเป็นอย่างมาก แล้ว จู่ ๆ ครูบาจึงหยิบแผ่นยันต์ทองแดง ขนาดเขื่อง 2แผ่นแล้วบอกว่าให้ผสมกับเหรียญ คุณหมอสมสุข พึ่งเคยเห็นยันต์นี้ครั้งแรกก็เลยถามว่ายันต์อะไร ครูบาขันแก้วบอกว่า ยันต์ดาบสรี๋กัญชัย เป็นพญาแห่งยันต์ที่สุดแห่งพระเวทล้านนา คุณหมอสมสุข จึงนำแผ่นยันต์นี้ มาหลอมกับทองระฆังหลวงพ่อพรหม จำนวนการส้รางแค่ 3,000 เหรียญ เท่านั้น ส่วนเหรียญทองแดง เป็นทองแดงล้วน ๆ จำนวนการสร้าง 10,500 เหรียญ แต่ผ่านการพุทธาภิเสก อย่างเข้มขลังจากครูบาขันแก้ว 3 เดือนเต็ม
    (ปาฏิหารย์การเสกวัตถุมงคลวันสุดท้าย วันที่ 12 สิงหาคม 2520)
    ในวันนี้ ได้มีการ ทอดผ้าป่า ครั้งแรกของวัดสันพระเจ้าแดงด้วย(หลังจาโดนหลอกมาหลายครั้ง) ครูบาขันแก้ว ได้ให้นำวัตถุมงคลทั้งหมดเข้าในพระอุโบสถตรงหน้าพระเจ้าแดง และได้เรียกพระ เณรทั้งหมด มาร่วมกันสวดธรรมจักรกัปวัฏนสูตร และสวดชยันโต และครูบาขันแก้ว ได้ลืมตาเสกพระ ประมาณ 2 ชั่วโมงเต็ม เมื่อเสร็จแล้วก็บังเกิดฝนตกปลอย ๆทั่วบริเวณวัดและทำให้รู้ว่า
    1.ครูบาขันแก้ว ได้แสดงอำนาจจิตอย่างสูงในการปลุกเสกวัตถุมงคล
    2.เป็นครั้งแรกที่มีการทอดผ้าป่าขี้น ที่วัดสันพระเจ้าแดง
    3.เป็นแสดงเจตนาอันบริสุทธิ์ ของคุณหมอสมสุข คงอุไร ที่สร้างวัตถุมงคลให้กับครูบาขันแก้ว
    4.ครูบาขันแก้วได้ปลุกเสกตรงหน้าพระเจ้าแดง พระพุทธรูปครูวัด
    5.ครูบาขันแก้ว พูดกับคุณหมอสมสุข ว่าเทวดา มาอนุโมทนา(พูด 2 ต่อ 2 แต่คณะศิษย์รัศมีพรหมโพธิโก ก็รู้ครับ
    ข้อมูลเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่คนศรัทธาครูบาขันแก้วครับ เพราะจะได้รู้ว่าความตั้งใจของท่านมีมากแค่ไหน เจตนาการสร้างบริสุทธ์ทั้งผู้ส้รางและผู้เสกสุดยอดแค่ไหน
    เหรียญรุ่นนี้มีความสุดยอดอีกอย่างหนึ่งก็คือ
    - ยันต์ด้านหลังเหรียญนั้น ยันต์นวหรคุณมีเก้าตัวถือว่าสุดยอดแล้ว แต่พุทธคุณนามสิบ มีสิบตัวนั้น สุดยอดแค่ไหน ดัง้นั้น ครูท่านเลือกได้สุดยอดจริงๆครับ
    - จุดสุดยอดของครูบาขันแก้ว ไม่เพียงแต่มียันต์ดาบสรี๋กัญชัยเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ยันต์ที่คู่กับยันต์ดาบนี้ก็คือ ยันต์นาคคอคำ ครับ ดังนั้นจะเห็นได้ว่า จะมีรูปพญานาคอยู่ข้างตัวท่านด้วย
    ซึี่งประวัติบางท่านอยากกจะไม่เคยได้ยินมาก่อน ผมขอเล่าคร่าวๆนะครับ เมื่อตอนที่ครูบาศรีวิไขย ได้ไปปฎิบัติธรรมที่ถ้าเชียงดาวได้มีพญานาคตัวหนึ่งได้มาหาท่าน ได้มอบตำราให้ท่านแล้วบอกให้ท่านเก็บรักษาไว้ เอาให้คนที่เป็นคู่บารมี ตำรานั้น มี ยันต์ดาบสรี๊กัญชัย และ ยันต์นาคคอคำ ด้วยครับ เปรียบเสมือน ถ้ามีดาบแล้วต้องมีโล่ห์ยังไงยังงั้น ครูบาศรีวิไชยก็มอบให้กับครูบาชุ่มอีกต่อ แล้วครูบาชุ่มก็มอบให้กับครูบาขันแก้ว ซึ่งเป็นเจ้าของที่แท้จริง ครูบาชุ่มบอกว่า เป็นหน้าที่ของเปิ้ล ก่อนจะมอบให้ครูบาขันแก้ว ท่านบอกว่า นี่เป็นยันต์ที่มีคุณอนันต์ แต่ก็มีโทษมหันต์ ดังนั้น ถ้าจะทำต้องดูว่าศิษย์ที่จะให้นั้นเป็นคนดี มีความกตัญญูต่อครูบาอาจารย์ไม๊ ถ้าไม่ดีก็อย่าทำ ให้เผาทิ้งเสีย และอยู่กับครูบาขันแก้วตั้งแต่นั้นมา จนกระทั่ง หมอสมสุข คงอุไร ท่านได้มากราบขอตัวเป็นศิษย์ ครูบาท่านจึงมีความเมตตาเป็นเป็นศิษย์กตัญญู เป็นคนดี จึงทำตะกรุดดาบสรี๊กัญชัย และ นาคคอคำตั้งแต่นั้นมา ปัจจุบันตะกรุดนี้ เป็นที่หวงแหนมากกับศิษย์รัศมีพรหม ลองถามบูชาสิครับ เค้าก็ส่ายหัวกันทุกคน เหอๆ ดังนั้น ถ้าใครไม่มียันต์สองอย่างนี้ มันเป็นเส้นผมบังภูเขานะครับ ผมขอแนะนำ เหรียญรุ่นแรกนี้เลย เพราะเป็นตัวแทนของยันต์ทั้งสองนี้นั่นเอง ครูบาท่านเขียนยันต์ดาบหลอมลงไปแล้ว มีรูปพญานาคอีก แน่ะ ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว ละ ไว้ในฐานที่เข้าใจล่ะกัน ใช้ดีจึงบอกต่อ เป็นพระดีศรีล้านนาเลยแหละ
    เหรียญครูบาขันแก้ว รุ่นแรก พ.ศ.2520 คณะศิษย์รัศมีพรหมจัดสร้างจำนวนทั้งสิ้น 13,792 เหรียญ แยกเป็น
    1) เหรียญเงิน จำนวน 170 เหรียญ ตอกโค้ดรูปดาว ไว้ที่สังฆาฏิ ซึ่งอยู่ในชุดกรรมการทั้งหมด
    2) เหรียญสำริดผสมทองระฆัง จำนวน 3,000 เหรียญ แบ่งเป็นชนิดมีห่วง 2,500 เหรียญ ชนิดไม่มีห่วง 500 เหรียญ ตอกโค้ดรูปดาว ไว้ที่หน้าเหรียญด้านล่าง
    3) เหรียญทองแดง จำนวน 10,600 เหรียญ แบ่งเป็น (1) แบบทองแดงกะไหล่ทอง จำนวน 500 เหรียญ ตอกโค้ดรูปดาว ที่ด้านหลังเหรียญ เหนือข้อความ “วัดสันพระเจ้าแดง” (2) แบบทองแดงไม่มีห่วง จำนวน 500 เหรียญ ตอกโค้ดรูปดาว เหนือข้อความ “วัดสันพระเจ้าแดง” (3) แบบทองแดงมีห่วง จำนวน 9,600 เหรียญ ตอกโค้ดรูปดาว เหนือข้อความ “วัดสันพระเจ้าแดง”
    4) เหรียญเนื้อทองระฆังหลวงพ่อพรหมล้วน ๆ จำนวน 22 เหรียญ ตอกโค้ดรูปดาว ไว้ที่ตำแหน่งเดียวกับเหรียญสำริดผสมทองระฆัง สีของเหรียญจะดูเหลืองสุกกว่าเนื้อสำริดผสมทองระฆังทั่วไป

    ให้บูชา 1500 รส
    85352.jpg
    85353.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 85106.jpg
      85106.jpg
      ขนาดไฟล์:
      94.2 KB
      เปิดดู:
      6
    • 85354.jpg
      85354.jpg
      ขนาดไฟล์:
      48.7 KB
      เปิดดู:
      6
  7. kiati_sak

    kiati_sak เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    7,485
    ค่าพลัง:
    +13,257
    281. พ่อ พ.พาน หลวงปู่เย็น ทานรโต วัดสระเปรียญ ชัยนาท สภาพเดิมๆ เก่าเก็บ ( ผมได้รับจากมือของท่าน ตั้งแต่ท่านยังอยู่ที่วัดสระเปรียญ ผมไปกราบ ลพ.กวย เสร็จก็เลยไปกราบท่าน ได้บูชา พ่อ พ.พานจากท่าน ท่านประสิทธิให้ ท่านสวดให้ศีลให้พรเสียงดังและก็สวดนานมาก ท่านเมตตามากครับ ) ตอนนี้ ตัวพ่อ พ พานท่านกำลังมาแรงครับ หาของแท้ๆยาก ต้องดูให้เป็น ว่ากันว่าท่านคุ้มครองป้องกันภัย เป็นเมตตามหานิยม ซื้อง่ายขายคล่องอธิษฐานขอพ่อได้ทุกอย่าง ตามปรารถนา
    ประวัติความเป็นมา
    ประวัติท่านทราบมาพอคร่าวๆ ก่อนที่ท่านจะมาบวชเรียน ท่านเคยมีครอบครัวมาก่อน ปัจจุบัน ลูกๆหลานๆท่านยังมีชีวิตอยู่กันท่านเรียนวิชาอาคมกับใครมาบ้างไม่ทราบเเน่ชัด เเต่ที่เเน่ๆก็หลวงพ่อศรี วัดพระปรางค์เเละหลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขาจากคำบอกเล่าของศิษย์ใกล้ชิดหลวงปู่ เล่าให้ฟังว่า หลวงปู่บอกว่า ท่านเคยเรียนวิชากับหลวงพ่ออิ่มได้วิชามาหลายอย่างๆรวมทั้งวิชามือยาวด้วย คนที่เล่าเรื่องราวหลวงปู่ให้ผมฟัง ยังบอกด้วยว่า วิชามือยาวนี้ หลวงปู่เคยทำให้ดูครั้งหนึ่งต่อหน้าศิษย์ใกล้ชิดสองสามคน เพราะทนการรบเร้าไม่ไหว ท่านทำให้ดูครั้งเดียวเท่านั้น ผู้เล่าท่านบอกผมว่า ถ้าไม่เห็นกับตา จะไม่เชื่อเลยของเเบบนี้ โชคดีมากที่ได้เห็น
    หลวงปู่เย็นท่านจะคุ้นเคยกับหลวงพ่อกวยพอประมาณ ท่านจะเรียกหลวงพ่อกวยว่า หลวงพี่ หลวงปู่เย็นอายุมากกว่าหลวงพ่อกวย เเต่เรียกเเบบนั้นเพราะอ่อนพรรษากว่า ท่านบวชทีหลังหลวงพ่อกวย มีบางพิธีที่หลวงปู่เล่าให้ฟังว่าเคยเดินทางไปกับหลวงพ่อกวยเพื่อเสกพระ บางครั้งนั่งรถเมล์ไปด้วยกัน หิวก็ฉันก๋วยเตี๋ยวตามทาง
    สมัยก่อนครั้งหนึ่ง ท่านเคยจำพรรษาอยู่วัดระฆังวันหนึ่งท่านเห็นพระรูปนึง เดินผ่านหน้ากุฎิ ท่านเลยนิมนต์พระรูปนั้นมาฉันน้ำชา ก็คุยเรื่องบวชเรียน พระรูปนั้นบอกว่าท่านถือธุดงค์ มีประสบการณ์มากมาย หลวงปู่เย็นบอกว่าท่านไม่ได้ธุดงค์ เเต่อยากสร้างวัด ไม่รู้จะทำอย่างไร พระรูปนั้นเลยกล่าวว่า ถ้าอยากสร้างวัดจะบอกวิธีให้ ท่านเลยบอกให้หลวงปู่หยิบก้านธูปมาเเล้วจะสอนให้พระรูปนั้นก็เอาก้านธูปมาหักเป็นรูปคล้ายๆตัว พ พาน เอาสายสิญณ์มาพันพร้อมกับมีคาถากำกับ เเละปลุกเสกท่านได้สอนการทำทั้งหมดให้หลวงปู่เป็นการส่วนตัว
    หลังจากนั้นหลวงปู่ได้ก้มลงกราบพระรูปนั้นเพื่อเป็นการขอบคุณ พอเงยหน้ามาพระรูปนั้นก็หายไปซะเเล้ว เเต่ท่านก็ยังจำรูปพรรณสัณฐานของพระรูปนั้นได้อย่างดี
    ต่อมาหลวงปู่ได้ไปหาหลวงปู่บุดดาซึ่งสมัยนั้นยังจำพรรษาอยู่วัดอาวุธ ได้เล่าเรื่องให้หลวงปู่บุดดาฟัง ขณะนั้นหลวงปู่ได้มองไปที่โต๊ะบูชาพระของหลวงปู่บุดดา ท่านได้เห็นรูปของพระภิกษุรูปหนึ่ง ท่านบอกหลวงปู่บุดดาว่า พระที่มาสอนท่านทำตัว พ คือพระในรูปนั้น ท่านจำได้ หลวงปู่บุดดาได้บอกว่าพระรูปนี้คือ หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร
    นี่คือที่มาของตัว พ มหัศจรรย์ของหลวงปู่เย็น ทานรโต วัดสระเปรียญ
    จากนั้นหลวงปู่ก็มาอยู่ที่วัดกลางชูศรี สิงห์บุรี ท่านก็เริ่มทำตัว พ เเจกให้กับลูกศิษย์ หลายๆคนต่างมีประสบการณ์กันมากมาย ทั้งกับตัว พ เเละพระที่ท่านเสก ท่านได้พัฒนาวัดกลางชูศรีจนเจริญรุ่งเรือง ต่อมาท่านก็ได้นิมนต์หลวงปู่บุดดาให้มาจำพรรษาเเทน เเล้วท่านก็ออกเดินทางมุ่งไปทางอำเภอสรรคบุรี ท่านเดินทางจนมาถึง บางขุด จนมาถึงสำนักสงฆ์การเปรียญ สมัยนั้นที่สำนักสงฆ์นี้นั้น มีพระรูปหนึ่งจำพรรษาอยู่ชื่อหลวงตาชุ่ม เเละมีเเม่ชีซึ่งเป็นลูกสาวบวชอยู่ที่สำนักสงฆ์นี้ด้วย
    หลวงปู่จำพรรษาอยู่ที่สำนักสงฆ์ พอหลวงตาชุ่มมรณภาพท่านก็ได้เป็นเจ้าอาวาส เเละได้ก่อตั้งเป็น “วัดการเปรียญ”ขึ้นมา เเละต่อมาภายหลังก็ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “วัดสระเปรียญ”
    ในปี พ.ศ. ๒๕๒๒ หลวงปู่บุดดาต้องเข้ารักษาตัว ณ โรงพยาบาลตำรวจเมื่อหายแล้ว ท่านได้กลับไปเยี่ยมและพักผ่อน ณ วัดบุญทวี ถ้ำแกลบ จ.เพชรบุรี ช่วงระยะหนึ่งเมื่อจวนเข้าพรรษา หลวงปู่เย็น ทานรโต เจ้าอาวาสวัดกลางชูศรีเจริญสุข อ.พักทัน จ.สิงห์บุรี ในสมัยนั้นได้นิมนต์ขอให้หลวงปู่ไปจำพรรษากับท่าน หลวงปู่จึงได้จำพรรษาอยู่กับหลวงปู่เย็นโดยมีพระมหาทอง กาญจโน ศิษย์และอุปัฏฐากผู้ใกล้ชิดติดตามมาอยู่ด้วย สำหรับวัดกลางชูศรีเจริญสุขนั้น ได้สร้างมาตั้งแต่สมัยต้นกรุงศรีอยุธยา ต่อมาเป็นวัดร้าง หลวงปู่เย็นได้เริ่มดำเนินการบูรณะและก่อสร้างโบสถ์ขึ้นก่อน ต่อเมื่อหลวงปู่บุดดามาอยู่ ด้วยบารมีของท่าน และหลวงปู่เย็น และด้วยการบริหารของพระมหาทองจึงทำให้วัดกลางชูศรีเจริญสุขพัฒนาขึ้นจนเป็นวัดที่มีความสมบูรณ์สวยงามสง่านับเป็นวัดที่ทันสมัยวัดหนึ่ง
    พระเครื่องของหลวงปู่เท่าที่ได้ยินมาเด่นมากทางเเคล้วคลาด เมตตามหานิยมเป็นเยี่ยม โดยเฉพาะตัว พ เมตตาสุดๆ เเถมยังมีอานุภาพเด่นที่เเปลกกว่าที่อื่นอีก นั่นคือ ยังสามารถเตือนภัยได้ เวลามีภัยตัว พ นี้ จะส่งเสียงร้อง ถ้า ตัว พ ร้อง เขาบอกต้องระวังตัว
    คนที่ผมนับถือ ได้เล่าให้ผมฟังว่า ตัวท่านเคยมีประสบการณ์กับตัว พ สองครั้ง ครั้งเเรกนั่งซ้อนรถเครื่องไปอำเภอสรรคบุรี ขณะนั่งรถ ได้ยินเสียงจี๊ดๆ ร้องได้สองครั้ง พยายามสังเกต รู้สึกว่าเหมือนเสียงดังมาจากตัว พ ที่เหน็บอยู่ ก็เลยนึกถึงคำพูดของหลวงปู่เย็นว่า ให้ระวังอย่าให้ตัว พ ร้องถึงสามครั้ง เเต่ก็สายไป พอตัว พ ร้องได้ครั้งที่สาม รถเครื่องคว่ำทันทีเพราะฝนตกถนนลื่น ดีที่ไม่เป็นอะไรมาก
    ครั้งที่สองท่านไปสิงห์บุรี ขณะเดินทาง คราวนี้ตัว พ ร้องอีก ท่านรู้ทัน เลยบอกให้คนขับรถหยุด หาซื้อน้ำกินกัน สักพักก็เดินทางต่อ พอไปถึงสี่เเยกก่อนเข้าสิงห์ ท่านบอกว่าเห็นรถชนกันตั้งสามสี่คัน เลยนึกขอบคุณตัว พ หลวงปู่เย็น
    ความศักดิ์สิทธิ์ตัว พ ของหลวงปู่เย็น นั้นเมตตา โชคลาภดีมากๆ ทุกวันนี้ผมก็พกติดตัวรวมกับพระของหลวงพ่อกวยเเละหลวงพ่อเฒ่า พบเจอที่ไหนอย่ามองข้ามนะครับ ท่านอาจเจอในราคาถูกๆ เป็นของดีมากๆจริงๆ นอกจากเมตตาเเล้ว ยังเตือนภัยได้คล้ายมีหุ่นพยนต์คุ้มครองตัวอีกด้วย
    ตัว พ ที่ท่าน ท่านทำมาเรื่อยๆ มีหลายขนาด ตั้งเเต่เล็กๆ ห้อยคอ ขนาดย่อมๆสำหรับบูชา จนถึงขนาดเท่าหน้าตักก็มี เรียกว่าหลวงปู่นั่งอุ้มเสกก็มี ขนาดใหญ่ๆที่ว่า หายากสุดๆ
    หลวงปู่ท่านบวชเรียน เเละหลังๆท่านเน้นเรื่องการปฎิบัติกรรมฐาน จึงได้พบกับอะไรบางอย่างเกี่ยวกับพระสายนี้ ท่านได้มรณภาพเมื่ออายุ ๙๔ ปี เมื่อปีพ.ศ. ๒๕๓๙ ปัจจุบันท่านละกายสังขารของท่านแล้วไม่เน่าเปื่อย
    เกี่ยวกับตัว“พ” นี้ หลวงปู่ได้สั่งไว้ก่อนมรณภาพ ว่า ตัว“พ” นี้ให้สูญสิ้นไปกับท่าน ท่านไม่ได้ถ่ายทอดให้ใคร เพราะเป็นของที่ท่านได้เฉพาะตัวเท่านั้น

    คาถาบูชาพระเเละตัว พ หลวงปูเย็น
    (ระมัดระวังอย่าแขวนกลับบนเป็นล่าง ล่างเป็นบน )
    ให้น้อมรำลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ หลวงปู่เย็นเป็นที่สุด
    ให้กล่าวคำว่า พ่อช่วยลูกด้วย (๓ ครั้ง) ให้เจ้านายเขารักลูกนะ(๓ ครั้ง)
    ลูกคิดสิ่งใดให้สมความปรารถนา

    คาถาปลุกตัว พ พาน หลวงปู่เย็น

    พ่อจงมาโปรดลูกคนนี้ให้เขากินอิ่มนอนหลับ
    พ่อจงมาโปรดลูกคนนี้เขาจะเอาอะไรก็ขอให้ช่วยเขาสมปรารถนา
    พระเจ้าพ่อจงมาโปรดลูกคนนี้ พุทธะเตเชนะ
    ความใดอย่าให้ถูก ปติเสวามิ
    พุทธะเมตตาจิต ธัมมะเมตตาจิต สังฆะเมตตาจิต
    นะเมตตา โมกรุณา พุทปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู
    อิสวาสุ สุสวาอิ พุทธะปิติอิ
    เป็นคาถาที่หลวงปู่เย็น วัดสระเปรียญ ให้ไว้ปลุกตัว พ.

    (ขอขอบคุณท่านเจ้าของข้อมูลมา ณ ที่นี้ด้วยครับ)

    ให้บูชา 3000 รส
    85276.jpg
    85277.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...