เหรียญพระโพธิสัตว์(กวนอิม) มูลนิธิเทียนฟ้า รุ่นแรก ปี2497 - วัตถุมงคล หลวงปู่พิศดู-ครูบากฤษดา

Discussion in 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' started by bat119, Feb 20, 2013.

  1. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    Joined:
    Sep 10, 2009
    Messages:
    14,698
    Ratings:
    +30,924
    หลังวัดเฉลิม-ลำปาง2.jpg

    upload_2025-5-14_11-35-37.png
     
  2. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    Joined:
    Sep 10, 2009
    Messages:
    14,698
    Ratings:
    +30,924
    [​IMG]

    [​IMG]
     
  3. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    Joined:
    Sep 10, 2009
    Messages:
    14,698
    Ratings:
    +30,924
    https://www.facebook.com/groups/308...549&hoisted_section_header_type=recently_seen

    4.1.jpg

    #เล่าให้ฟังพอเป็นแนวทาง ถึงภูมิธรรมเดิมขององค์หลวงปู่พิศดู
    ตามที่เคยได้ยินได้ฟังมาจากลูกศิษย์หลวงปู่รุ่นใหญ่ รุ่นกลางหลายท่านที่เคยมีประสบการณ์ รวมถึงพระสุปฏิปันโนผู้มีญาณสัมผัสอันลึกซึ้ง ให้ข้อมูลตรงกันว่า.. หลวงปู่พิศดูท่านมีอุปนิสัยเป็นดั่งพระปัจเจกบุคคลไม่ค่อยเหมือนใคร ท่านเป็นพระที่ทรงอำนาจจิตอันกล้าแข็ง มีความลี้ลับ และมากด้วยฤทธิ์อภิญญาเหมือนพระโบราณสมัยพุทธกาล เนื่องด้วยเหตุที่ท่านบำเพ็ญเพียรในทางสมถะ วิปัสนากัมมัฏฐาน และเชี่ยวชาญในกสิณ 10 เป็นอันมาก ปูมหลังแห่งชาติภพท่านก็ยังเคยเกิดเป็นโยคีฤาษี ผู้บำเพ็ญพรตมาหลายภพนับชาติไม่ถ้วน ซึ่งวิถีธรรมแห่งอดีตของท่านนั้น ไม่ได้รีบเร่งทำลายอาสวะเพื่อหวังมรรคผลนิพพาน แต่อาศัยการสร้างสมอบรมจิตและ สร้างบารมีเพื่อสงเคราะห์มวลสรรพสัตว์ผู้ประสบทุกเข็ญ หลวงปู่ท่านเคยบอกไว้ว่า..
    " แต่เดิมมาเราก็เคยปรารถนาพุทธภูมิมาก่อน..."
    แต่กาลต่อมาท่านเห็นว่า จริตที่แท้จริงของท่านเหมาะสมและเลื่อมใสในปฏิปทาธรรมแห่งพระปัจเจกพุทธเจ้า ท่านจึงได้เปลี่ยนมาตั้งความปรารถนาในพระปัจเจกพุทธภูมิมาตลอดมา นับชาติอสงไขยเป็นมหากัปป์ จวบจนบารมีของท่านใกล้เต็มเปี่ยม และใน 2 ชาติสุดท้ายมานี้ตราบปัจจุบันชาติ ท่านก็ได้ถอนทุนแห่งความปรารถนาทั้งหมด รวบรัดตัดชาติ เดินวิปัสสนาความเพียร จนสำเร็จเป็นพระอรหันต์ขีณาสพ พร้อมด้วยจตุปฏิสัมภิทาฯ เป็นการเกิดครั้งสุดท้ายแห่งห้วงวัฏสงสารในชาตินี้ (หลวงปู่ท่านต้องอธิษฐานถอนปัจเจกพุทธภูมิถึง 2 ชาติเนื่องจากความอาลัยที่ได้บำเพ็ญเพียรมายาวนาน ภูมิธรรมเดิมจึงเหนียวแน่นมาก)
    ด้วยภูมิจิตภูมิธรรมดังกล่าวมา ทำให้หลวงปู่พิศดูมีความพิเศษในบารมีธรรมอันละเอียดยอดยิ่ง ท่านคือพระอริยะเผ่าพงศ์อจินไตยองค์สำคัญอีกองค์หนึ่งแห่งยุค
    มีพระครูท่านหนึ่งเคยให้ข้อมูลไว้ว่า ด้วยความที่หลวงปู่พิศดูท่านเคยเกิดเป็นฤาษีมาก่อน ดั่งมีสัญญาเก่าแห่งอดีตผูกเป็นสายญาณบารมีเอาไว้อยู่ ชาตินี้ท่านได้เคยสร้างและเสกรูปพระฤาษีเอาไว้ด้วยเช่นกัน ซึ่งรูปพระฤาษีดังกล่าวนี้ ท่านสร้างเอาไว้ไม่มากองค์นัก
    เคยมีผู้นำพระฤาษีของหลวงปู่ไปให้พระที่มีญาณวิถีอันแก่กล้ารูปหนึ่งช่วยตรวจทางในดูให้ หลังจากหลวงพ่อรูปนั้นได้ขอบารมีและขออนุญาติใช้จิตตรวจดูแล้ว ท่านได้กล่าวออกมาอย่างปีติว่า.. หลวงปู่ท่านเลิศทางฤทธิ์มาก พระฤาษีนี้หลวงปู่ท่านได้อธิษฐานไว้เสมือนเป็นตัวแทนของท่านเมื่อสมัยที่เป็นฤาษีใหญ่ และฤาษีองค์นี้หลวงปู่ยังอธิษฐานให้เป็นสื่อกลางไปถึงบรมครูฤาษีทั้ง 108 องค์ได้อีกด้วย นับว่าท่านมีความเป็นอัจฉริยภาพอันล้ำลึกในเรื่องของภูมิจิตที่พิสดารที่สุดองค์หนึ่ง มีความโดดเด่นเฉพาะตัวอย่างไม่มีผู้ใดเสมอเหมือน..
    ** นี่เป็นเพียงความเป็นมาในด้านหนึ่งเท่านั้น ยังมีอีกหลายๆด้านที่แสดงถึงคุณธรรมอันพิเศษของหลวงปู่ท่าน
    [​IMG] เรื่องราวของพระอริยเจ้า และพระอภิญญา เป็นเรื่องอจินไตย มักจะมีอะไรที่ฟังแล้วดูเหนือธรรมชาติ (แต่จริงๆแล้วเป็นเรื่องธรรมชาติที่มีอยู่เช่นนี้เอง เพียงแต่เกินกว่าเราจะไปคาดคิด) ขอให้ทุกท่านอ่านศึกษาด้วยใจที่เป็นกลาง ท่านใดที่ยังมีความแคลงใจ อ่านแล้วก็ขอให้ผ่านไป สิ่งใดที่เป็นประโยชน์ก็รับฟังเอาไว้ ส่วนท่านใดที่เชื่อในบารมีธรรมขององค์หลวงปู่ก็ให้ศึกษาเพื่อเจริญศรัทธา และเป็นกำลังใจในการปฏิบัติต่อไป..
     
  4. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    Joined:
    Sep 10, 2009
    Messages:
    14,698
    Ratings:
    +30,924
    https://www.facebook.com/groups/308...ection_header_type=recently_seen&locale=th_TH

    รูปบรัชหลวงปู่.png
    เหตุการณ์สำคัญที่ทำให้ผู้คนได้รู้จักองค์หลวงปู่พิศดู
    เมื่อประมาณเดือน กรกฎาคม พ.ศ.2542 ได้เกิดฝนตกหนักบริเวณพื้นที่ กิ่งอ.เขาคิชฌกูฏ และอำเภอใกล้เคียง ติดต่อกันนานหลายวัน ทำให้เขาคิชฌกูฏที่มีลักษณะเป็นดินทรายปนหิน พังถล่มลงมา ทั้งท่อนไม้ ต้นไม้ นับพันนับหมื่นท่อนได้หักโค่งลงมาอย่างถอนรากถอนโคน และไหลโหมกระหน่ำลงมาตามลำธารธรรมชาติสายต่างๆ จึงทำให้เกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ เหตุการณ์หนึ่งของชาวจันทบุรี
    โดยก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเพียง 7 วันนั้นเอง องค์หลวงปู่ท่านก็ได้บอกเตือนชาวบ้านที่มาทำบุญที่วัดถึงภัยธรรมชาติอันจะเกิดขึ้นอีกเพียงไม่กี่วัน แต่ก็ไม่ค่อยมีใครสนใจกับคำเตือนนั้นเท่าที่ควร ถึงแม้จะมีลูกศิษย์บางคนไปช่วยประกาศเตือนชาวบ้านนั้นทราบอีกแรงก็ตาม ท่านก็ได้แต่ปลงธรรมสังเวช แต่ท่านก็ยังรับรองสถานที่ๆปลอดภัยที่สุดให้กับผู้ที่เชื่อในองค์ท่านว่า " ที่อื่นเราไม่รับรองนะ แต่ที่วัดเทพฯนี่ปลอดภัยแน่นอน " พอผ่านไปได้เพียง 7 วันเขาคิชฌกูฏก็เกิดพังถล่มลงมา ทำให้ท่อนไม้ท่อนซุงดังกล่าวที่ไหลลงมาตามกระแสน้ำป่าอย่างบ้าคลั่งด้วยกำลังมหาศาล ยากยิ่งที่สิ่งใดจะมาต้านทานไว้ได้..!!! แต่ด้วยเดชะบุญ มหาบารมีธรรม บวกกับกำลังฤทธิ์ขององค์หลวงปู่พิศดู กระแสทะเลซุงที่กำลังโหมกระหน่ำลงมาผ่านพื้นที่ของวัดนั้น ปรากฏเหมือนเป็นปาฏิหาริย์ เพราะได้มีท่อนซุงขนาดใหญ่จำนวนหลายท่อนได้ไหลลงมาเรียงซ้อนกันเป็นกำแพงตามแนวขอบเขตริมฝั่งคลองของวัด ทำให้กระแสน้ำที่ไหลมาได้ปะทะกับท่อนซุงอย่างจัง ทำให้กระแสน้ำนั้นได้หักเหเหลี่ยนทิศทางไป จึงเกิดเป็นคลองสายที่สองขึ้นขนาบกับคลองสายเก่าที่มีอยู่แต่เดิม วัดของท่านจึงรอดพ้นมหาภัยด้วยปาฏิหาริย์ ทั้งๆที่มีกุฏิริมน้ำตั้งขวางทางอยู่ แต่ก็กลับหาอันตรายได้ไม่ แต่เป็นที่น่าเวทนา ที่กระแสน้ำป่าทะเลซุงนั้นได้ไหลลงไปตามลำคลอง พัดถล่มทำให้อาคารสถานีตำรวจเก่าเกิดความเสียหายราบเห็นหน้ากลอง ถนนและการคมนาคนถูกตัดขาดสิ้นเชิง (แต่ทราบมาว่าไม่มีรายงานถึงผู้เสียชีวิต..) ข่าวการรอดพ้นจากภัยธรรมชาติของวัดเทพธารทอง ทำให้เป็นที่สนใจของผู้คน รวมทั้งสื่อวิทยุ หนังสือพิมพ์หลายฉบับก็ต่างประโคมข่าวปาฏิหาริย์ในครั้งนี้ องค์หลวงปู่พิศดู และวัดเทพธารทอง จึงเป็นที่รู้จักของบุคคลทั่วไปนับตั้งแต่บัดนั้นเอง เคยได้ถามองค์หลวงปู่ว่า เหตุการณ์ตอนนั้นองค์หลวงปู่ทำอย่างไร ท่านก็ตอบว่า " เราก็นอนก่ายเกกสวดมนต์อยู่ที่กุฏิเฉยๆ " และยังบอกอีกว่า " เราก็เลยดังเพราะซุง "
    ซึ่งในช่วงระยะนั้นนั่นเอง องค์หลวงปู่จึงได้แจกพระกสิณที่ท่านตั้งใจสร้างไว้ ให้แก่บรรดาลูกศิษย์ และผู้ที่มากราบ พระกสิณจึงเริ่มเป็นที่รู้จักกันบ้าง ลูกศิษย์รุ่นเก่าที่ได้รับแจกต่างทราบกันดี และเป็นที่หวงแหนกันมาก เพราะเป็นสิ่งที่มีคุณค่าทางใจมากครับ..
    cr.sira pop
     
  5. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    Joined:
    Sep 10, 2009
    Messages:
    14,698
    Ratings:
    +30,924
    https://www.facebook.com/groups/308...ection_header_type=recently_seen&locale=th_TH

    4EdtTJg9jLKkTsb2170RynIoXa_s8qYnaSqjtSC0wW9_8GNI0O3VzhzSnQPTnI&_nc_zt=23&_nc_ht=scontent.fbkk5-1.jpg

    #หลวงปู่ได้สั่งงานเอาไว้
    เมื่อต้นปี 2553 หลวงปู่พิศดูได้ปรารภกับผู้เขียนไว้ว่า..
    " วัดเทพ(ธารทอง)นี่ยังไม่มีโบสถ์ ต่อไปถ้าเราไม่อยู่แล้ว ถ้าวัดเทพจะสร้างโบสถ์ ให้เอาวิหารท่านพ่อลีทำเป็นโบสถ์นะ วิหารท่านพ่อลีทำเป็นโบสถ์ได้.."
    ผู้เขียนรับคำสั่งจากองค์หลวงปู่โดยตรง และได้เก็บเรื่องนี้เอาไว้ จนกระทั่งหลวงปู่มรณภาพลง ได้มีเจ้าอาวาสองค์ใหม่มารับหน้าที่การปกครองดูแลวัดแทน นั่นก็คือท่านพระอาจารย์เกรียงไกร(ดิน) เจ้าอาวาสวัดเทพธารทองรูปปัจจุบัน ท่านมีดำริอยากจะสร้างโบสถ์เพื่อเป็นถาวรวัตถุสำคัญประจำวัด ซึ่งจะสามารถใช้ในการทำสังฆกรรม และบวชพระภิกษุได้ ผู้เขียนจึงได้นำเรียนปรึกษากับท่านพระอาจารย์เกรียงไกร ถึงคำสั่งที่หลวงปู่ได้บอกไว้ ท่านพระอาจารย์ก็บอกว่า..
    " ดีเลยเราก็กำลังมองหาที่จะสร้างโบสถ์อยู่ ก็ยังมองๆอยู่ว่าวิหารนี้จะทำเป็นโบสถ์ได้ ถ้าหลวงปู่สั่งหมอเอ็กส์ไว้แบบนี้ ต่อไปต้องทำตามที่หลวงปู่สั่ง คือรีโนเวทวิหารท่านพ่อลีหลังนี้ให้เป็นโบสถ์ เราก็ว่าดีนะหลวงปู่คงมองเห็นอนาคตจึงได้สั่งเอาไว้.."
    ถึงแม้วิหารหลังนี้จะมีพื้นที่ไม่ได้ใหญ่โตนัก แต่ก็พอมีพื้นที่ในการประกอบสังฆกรรมและบวชพระภิกษุสงฆ์ได้อย่างสบาย ซึ่งโครงการการบูรณะวิหารหลังนี้ และปรับปรุงต่อเติมให้เป็นโบสถ์โดยสมบูรณ์ จะเริ่มทำโครงการนี้ในปี 2569 ผู้เขียนจึงขอใช้พื้นที่นี้บันทึกเอาไว้ให้ทราบโดยทั่วกันครับ..
     
  6. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    Joined:
    Sep 10, 2009
    Messages:
    14,698
    Ratings:
    +30,924
    ed256041046th ตลิ่งชัน
     

Share This Page

Loading...